14 ต.ต.55 มีเพื่อนชื่อจอห์น เขา post ภาพใน facebook.com เห็นว่าเป็นภาพของพืชชนิดหนึ่ง ชื่อดอกบัวตอง มีดอกสีเหลือง เจริญเติบโตง่าย เพราะเห็นเหลืองอล่ามงามตาเต็มทุ่งไปหมด เคยได้ยินว่าเจริญเติบโตเต็ม และมีชื่อที่ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตอนนี้หาชมได้ที่ อ.แม่เมาะ ช่วงหน้าหนาวแล้วครับ ทาง กฟผ.ก็จัดกิจกรรมชมดอกไม้ชนิดนี้ทุกปี
บัวตอง หรือ พอหมื่อนี่ (อังกฤษ: Mexican Sunflower Weed; ชื่อวิทยาศาสตร์: Tithonia diversifolia (Hemsl.) A. Gray. ) เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก เป็นไม้ดอกมีอายุยืนยาวหลายปี สามารถสูงได้ถึง 5 เมตร ออกดอกเป็นช่อเดียว บริเวณปลายกิ่ง มีสีเหลืองคล้ายดอกทานตะวัน แต่มีขนาดเล็กกว่า ดอกวงนอกเป็นหมัน กลีบเรียวมีประมาณ 12–14 กลีบ ดอกวงในสีเหลืองส้มเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ใบของบัวตองเป็นใบเดี่ยว รูปไข่หรือแกมขอบขนาน มีขนขึ้นเล็กน้อยประปราย บริเวณ ปลายใบเว้า มีขนขึ้นเล็กน้อยประปราย ปลายใบเว้าลึก 3–5 แฉก ชอบขึ้นในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น จะออกดอกสวยงามที่สุดบนยอดดอยที่สูงกว่า 800 เมตรขึ้นไป โดยจะออกดอกในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมเท่านั้น ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%87
http://www.facebook.com/profile.php?id=100003808000837
Author Archives: admin
กลไกไม่ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน
7 ต.ค.55 มีโอกาสฟังคนดีแทนคุณแผ่นดิน พูดถึงปัญหากลไกที่ขับไปคนละทิศ เมื่ออังคารที่ 24 กรกฎาคม 2555 ที่มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง ตัวอย่างหนึ่งที่เมืองน่าน คือ กลไกสนับสนุนเกษตรกร กับกลไกหยุดปัญหาหมอกควัน ผมว่าแต่ละกลไกทำถูกในมุมของตนเองครับ แต่ผมว่า “เราไม่มีกลไก” ที่เข้ามากำกับกลไกที่มีอยู่ให้ไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก็เกรงใจกลไกต่าง ๆ ที่ขับอยู่ เพราะทุกกลไกมีเป้าหมายของตนไปกันคนละทิศคนละทาง จะเรียกร้องหากลไกที่เข้ามาคุมกลไกทั้งหมดก็เป็นเรื่องในจินตนาการเท่านั้น
หากจะคุมกลไกทั้งหมดก็ต้องทำ Convergence คือ หลอมรวมเข้าด้วยกัน แต่แน่นอนว่าผู้ได้รับผลกระทบเชิงลบคงไม่ชอบ ทุกคนชอบอิสระเสรีเหนืออื่นใด
ปัจจุบันประเทศไทย (ในช่วงที่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี) ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างระบบราชการ ตาม พระราชบัญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 โดยกำหนดในมาตรา 5 ให้มีกระทรวง และส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกระทรวง ดังต่อไปนี้
1) สำนักนายกรัฐมนตรี
2) กระทรวงกลาโหม
3) กระทรวงการคลัง
4) กระทรวงการต่างประเทศ
5) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
6) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
7) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
8) กระทรวงคมนาคม
9) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
10) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
11) กระทรวงพลังงาน
12) กระทรวงพาณิชย์
13) กระทรวงมหาดไทย
14) กระทรวงยุติธรรม
15) กระทรวงแรงงาน
16) กระทรวงวัฒนธรรม
17) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
18) กระทรวงศึกษาธิการ
19) กระทรวงสาธารณสุข
20) กระทรวงอุตสาหกรรม
ผลกระทบ แกมี เข้าล้อมแลด กับเมืองปานที่ลำปาง
เวลา 02.00 (6 ต.ค.55) ที่ อ.เถิน จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืน ได้ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าในลำห้วยเครือะ ไหลหลากเข้าท่วมถนนพหลโยธิน บริเวณหลัก กม.ที่ 615 – 616 ฝั่งขาขึ้น พื้นที่หมู่ 12 บ้านหนองเชียงราน ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง ระดับน้ำท่วมสูงสุดเกือบ 50 ซม. จนท.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เทศบาลตำบลล้อมแรด และ อาสาสมัครกู้ภัยออมบุญเถิน และกำลัง จนท.ตำรวจ สภ.เถิน กว่า 20 นาย ต้องช่วยกันนำแผลงเหล็ก และกรวยพลาสติก ปิดกั้นเส้นทางสายดังกล่าว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสน้ำไหลท่วมถนนเป็นทางยาวเกือบ 200 เมตร เนื่องจากบางจุดระดับน้ำท่วมสูงเกิน 50 ซม.โดย จนท.ได้ส่งสัญญาณเตือนภัย แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และให้ขับรถเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ตามเส้นทางที่ จนท.เปิดไว้ให้ ขณะขับฝ่าสายฝนผ่านเข้าออกพื้นที่โดยให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
นายจุมพร ชมภูรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลล้อมแรด เปิดเผยว่า ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนให้หลายพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก จากอิทธิพลของ พายุแกมี (GAEMI) ซึ่งจะส่งผลทำให้หลายจังหวัดมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะพื้นที่เขตเทศบาลตำบลล้อมแรด ซึ่งมีแม่น้ำวังไหลผ่าน และลำห้วยสาขาต่างๆ มากถึง 10 สาย ได้สั่งการให้ จนท.จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันภัย และจัดกำลังเข้าเวรผลัดเปลี่ยนกันทุก 24 ชั่วโมง เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
สำหรับปัญหาน้ำห้วยไหลหลากเข้าท่วมถนนพหลโยธินสายลำปาง(เถิน)-ตาก ครั้งนี้ คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการทับถมของสิ่งปฏิกูลมูลฝอยทำให้ลำห้วยตื้นเขิน และการถมที่ดินกีดขวางทางน้ำไหล และจึงทำให้การระบายน้ำในลำห้วยเครียะไปยังแม่น้ำวังไม่สะดวก ล่าช้า จนเอ่อล้นเข้าท่วมถนนช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง สถานการณ์น้ำท่วมบนถนนสายดังกล่าวได้ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว.แต่ยังมีน้ำท่วมขังตามพื้นที่ลุ่มเป็นแห่งๆ
http://www.dailynews.co.th/thailand/159264
—
ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ.2555 9:24น.
ลำปางน้ำป่าหลากเมืองปาน1.50ม.-ดินถล่มทางรถไฟขาด
น้ำป่าหลาก อ.เมืองปาน ชาวบ้านกว่า 150 หลังคาเรือน จมน้ำกว่า 1.50 เมตร อีกหมู่บ้าน ดินสไลด์ปิดทางเข้าออก ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะดินภูเขาถล่มลงมาทับเส้นทางรถไฟบริเวณ ขุนตาล-ธารชมพู จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่เร่งซ่อม
เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในเขตพื้นที่ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เบื้องต้นมีบ้านเรือนราษฎร ได้รับผลกระทบหลายตำบล โดยที่ ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน เสียหายอย่างหนัก มีบ้านเรือนประชาชนจำนวน 6 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบกว่า 150 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมความสูง 1.50 เมตร ไปจนถึง 2 เมตร หลังจากลำน้ำมอญและลำน้ำกา ไหลหลากมาจากฝนที่ตกหนักจนภูเขาดอยแจ้ซ้อน ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ จนมาถึงช่วงเช้านี้ และมีรายงานว่า มีดินสไลด์ที่บ้านปางต้นหนุน หมู่ 10 ปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านกว่า 60 หลังคาเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเข้าออกไม่ได้
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=403029
สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ
ดร.ศรีศุกร์ นิลกรรณ์ ประธานบริหารหลักสูตรศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง และนายนพพร ไชยวงค์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดลำปาง ให้การต้อนรับคณะ สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ (สสทน.) กลุ่มเครดิตยูเนียนท่องเที่ยว และมัคคุเทศก์เชียงใหม่ ในโอกาสศึกษาดุงานแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง และมหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง ในระหว่างวันที่ 21 – 22 กันยายน 2555
ไว้อาลัย คุณวันชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ถึงแก่กรรม 15 ก.ย.55
ที่ลำปาง มีห้างเซ็นทรัลมาตั้งกลางใจเมือง จะเปิดในปี 2555 นี้ แล้วได้ข่าวเศร้าว่า คุณวันชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2555 เวลาประมาณ 07.19 น. ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยวัย 84 ปี ขอร่วมไว้อาลัยครับ
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายวันชัย ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎรมากว่า 10 วันแล้ว ก่อนเสียชีวิต ทั้งนี้ นายวันชัย เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน ของนายเตียง และนางหวาน จิราธิวัฒน์ มีภรรยาชื่อนางสุมาลี (ด่านภัทรกุล) จิราธิวัฒน์ ซึ่งเสียชีวิตแล้ว โดยมีบุตร-ธิดา 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คนประกอบด้วย นางจินตนา บุญรัตน์ สมรสกับ นายฉัตรชัย บุญรัตน์ นายวัฒน์ จิราธิวัฒน์ นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ สมรสกับนลินี อรรถกระวีสุนทร นายศักดิ์ชัย จิราธิวัฒน์ สมรสกับสุรางค์รัตน์ วิทยะเวทิน และนายพิชัย จิราธิวัฒน์
นายวันชัยเป็นน้องรองจากนายสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้บุกเบิกธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งได้เสียชีวิตแล้ว นายวันชัยจบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดราชโอรส ระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนอำนวยศิลป์ รุ่นลมหวล โรงเรียนอัสสัมชัญ และอัสสัมชัญพาณิชย์ และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยก่อนเสียชีวิตดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด หรือผู้นำสูงสุดของอาณาจักรเซ็นทรัล
รายงานข่าวจากกลุ่มเซ็นทรัลเปิดเผยว่า บทบาทของนายวันชัยในกลุ่มเซ็นทรัลอยู่ในฐานะที่ปรึกษาและประธานกรรมการ โดยยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวเชื่อมสัมพันธ์กับบริษัทข้ามชาติและสร้างสัมพันธ์กับสถานทูตต่างๆ เมื่อมีงานที่เกี่ยวข้องกับสถานทูตของแต่ละประเทศ นายวันชัยจะเป็นตัวแทนของกลุ่มเซ็นทรัลเข้าร่วมงาน แต่บทบาทด้านธุรกิจถือว่าวางมือและมีบทบาทน้อยลง เนื่องจากมีลูกๆ และหลานๆ ในตระกูลจิราธิวัฒน์เข้ามารับผิดชอบสานต่อธุรกิจใน 5 กลุ่มหลักของกลุ่มเซ็นทรัล
ทั้งนี้ โครงสร้างธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล จัดแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มพัฒนาศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินงานโดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ซึ่งมีนายกอบชัย จิราธิวัฒน์ บุตรชายนายวันชัย ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีพีเอ็น 2.บริษัทที่ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้า ดำเนินการภายใต้บริษัท เซ็นทรัล รีเทล จำกัด หรือซีอาร์ซี รับผิดชอบงานโดยนายทศ จิราธิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
3.กลุ่มโรงแรม ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท เซ็นทรัล โฮเทลรีสอร์ท หรือซีเอชอาร์ ซึ่งรับผิดชอบโดยนายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ 4.กลุ่มอาหาร ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท เซ็นทรัล เรสเตอรอง กรุ๊ป ภายใต้การบริหารงานของนายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ 5.กลุ่มธุรกิจการค้า ภายใต้บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป หรือซีเอ็มจี รับผิดชอบโดยนายพิชัย จิราธิวัฒน์ ซึ่งเป็นบุตรชายนายวันชัยเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน เวลาประมาณ 18.00 น. ที่ศาลา 1 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพแก่นายวันชัย พร้อมทั้งโกศ โถ และฉัตรเบญจาจำนวน 2 คู่
สำหรับบรรยากาศพิธีบำเพ็ญกุศลนายวันชัยวันแรก ได้มีลูกหลานพร้อมหน้า อาทิ นายสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ รวมทั้งนักธุรกิจและบุคคลมีชื่อเสียงของไทยจำนวนกว่า 200 คน เดินทางมาแสดงความอาลัยครั้งสุดท้ายแก่นายวันชัย ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย โดยมีครอบครัวจิราธิวัฒน์และบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัลเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ กำหนดตั้งบำเพ็ญกุศลเพื่อสวดอภิธรรมเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-21 กันยายน ที่ศาลาเตชะอิทธิพร (ศาลา 1) วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เซ็ลทรัล จำกัด กล่าวว่า นายวันชัยเป็นพี่ชายของตระกูล ซึ่งตระกูลจิราธิวัฒน์มีลูกหลานกว่า 200 คน โดยที่ผ่านมานายวันชัยได้เป็นแบบอย่างที่ดีด้านการบริหารให้แก่คนในตระกูล รวมถึงบุคคลภายนอกด้วย อาทิ ในด้านความขยัน ความเสียสละ สร้างความสามัคคีให้แก่พี่น้อง โดยนายวันชัยเป็นผู้ริเริ่มการก่อตั้งการทำธุรกิจแบบเครือญาติ พร้อมทั้งบริหารงานได้เป็นอย่างดี มีผลสัมฤทธิ์ที่ดีและทำให้กิจการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และยังให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์)
ในแง่ธุรกิจต่อจากนี้ไปของกลุ่มบริษัทในเครือเซ็นทรัล ภายหลังการจากไปของนายวันชัย คงไม่มีผลกระทบอะไรมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมานายวันชัยได้เตรียมการมาแล้วกว่า 10 ปี ในการให้เครือญาติหรือทายาทรุ่นใหม่ๆ เข้ามาบริหารงานแทน อย่างไรก็ตาม อาจจะกระทบในด้านขวัญและกำลังใจของลูกหลานตระกูลจิราธิวัฒน์และพนักงานในเครือเซ็นทรัล แต่เชื่อว่าทุกคนจะผ่านไปได้ และจดจำไว้แต่วิธีการบริหารและการทำงานที่ดีของนายวันชัย นายสุทธิธรรมกล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1347716486
น้ำจากแม่น้ำวัง ล้นเข้าท่วม ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง กว่า 100 หลังจมน้ำ
16 ก.ย.55 ฝนตกหนัก น้ำไหลไม่ทัน จึงเอ่อเขาท่วมหมู่บ้าน
แหล่งที่ 1 matichon.co.th
นายสัลเลข คำใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง และนายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ นายอำเภอเกาะคา จ.ลำปาง ได้รุดตรวจสอบพื้นที่ 3 หมู่บ้านใน ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนใต้ของ จ.ลำปาง โดยอยู่ห่างตัวเมืองลำปาง 35 กิโลเมตร โดยหลังจากแม่น้ำวังเอ่อล้นตลิ่ง ตั้งแต่ช่วงเวลา 04.00 น. โดยไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 100 หลังคาเรือน กระจายในหมู่บ้านแม่ไฮ ม.2 บ้านนาแส่ง ม.6 และบ้านนากิ๋ม ม.7 ต.นาแส่ง ระดับน้ำท่วม ตั้งแต่ 30 เซนติเมตร ไปจนถึง 1.50 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำยังคงทรงตัว
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น มาจาน้ำป่าที่ไหลหลากมากับลำน้ำแม่จาง หลังทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ก่อนที่น้ำก้อนใหญ่จะไหลมาสมทบในแม่น้ำวัง เขต อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งแม่น้ำวัง ที่มีปริมาณเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ยิ่งมีน้ำก้อนใหญ่ ในลำน้ำแม่จาง ไหลลงมาสมทบอีก จึงทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรทันที ซึ่งทาง จ.ลำปาง ได้ประเมินสถานการณ์ขณะนี้ ว่า ไม่น่าห่วง เพราะเป็นการเอ่อท่วม ไม่ได้ไหลเชี่ยวกราดรุนแรง และสถานการณ์ก็ไม่หนักเท่ากับเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร กระทบกว่า 1,000 หลังคาเรือน โดยในครั้งนั้น ท่วมทั้งโรงเรียนบ้านนาแส่ง – แม่ไฮ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลนาแส่ง และ อบต.นาแส่ง
“แต่สถานการณ์ในครั้งนี้ แม่น้ำวังได้ท่วมโรงเรียนเพียงเล็กน้อย โดยท่วมบริเวณโรงเรียน แต่ไม่ถึงห้องเรียน เพราะห้องเรียนตั้งอยู่สูง แต่จะหนักที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลนาแส่ง ที่ท่วมชั้นล่างของโรงพยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ ได้เก็บสิ่งของมีค่า และเวชภัณฑ์ขึ้นพื้นที่สูงก่อน เนื่องจากทางอำเภอได้ประกาศเตือนภัยไว้ล่วงหน้า จึงทำให้ทรัพย์สิน และเวชภัณฑ์ ไม่ได้รับความเสียหายมา อย่างไรก็ตาม คาดว่าในวันนี้ หากฝนไม่ตกซ้ำลงมา ก็จะทำให้น้ำลดระดับลง จนเข้าสู่ภาวะปกติ แต่สิ่งที่ชาวบ้านเกิดความเป็นห่วงมากที่สุด คือ ลำน้ำแม่ตุ๋ย ที่ไหลมาจาก อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ที่จะลงมาสมทบในแม่น้ำวัง เขต อ.เกาะคา อาจจะทำให้แม่น้ำวังในเขต ต.นาแส่ง เอ่อสูงขึ้น แล้วท่วมบ้านเรือนราษฎรอีกได้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ แม่น้ำวังที่เอ่อล้นตลิ่งได้ท่วมบ้านเรือนราษฎรนานกว่า 7 ชั่วโมงแล้ว” นายสัลเลข กล่าว
http://www.matichon.co.th
—
แหล่งที่ 2 krobkruakao.com
น้ำวังเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง บ้านกว่า 100 หลังจมน้ำวัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลนาแส่งโดนด้วย โรงเรียนอีก 1 แห่ง
วันนี้ เวลา 08.00 น.(16 ก.ย) ลำน้ำวังไหลทะลักเข้าเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ต.นาแส่ง อ.เกาคา จ.ลำปาง มีพื้นที่ 3 หมู่บ้านของ ต.นาแส่ง ถูกน้ำท่วมวังเข้าท่วม ได้แก่ หมู่ที่ 2 บ้านแม่ไฮ หมู่ที่ 6 บ้านนาแส่ง หมู่ที่ 7 บ้านนากิ๋ม รวมบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำวังเอ่อล้นเข้าทั้งหมดกว่า 100 หลังคาเรือน บางจุดมีน้ำท่วมตั้งแต่ 80 เซนติเมตร-1.50 เมตร
ส่วนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.นาแส่ง ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งหมด และโรงเรียน นาแส่งแม่ไฮนากิ๋ม ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน
ส่วนน้ำวังที่เข้าท่วม เป็นน้ำจากลำน้ำจาง ลำน้ำตุ๋ย และน้ำลำแม่ยาว ซึ่งเป็นน้ำก้อนใหญ่ ไหลมาจากทางทิศเหนือของ จ.ลำปาง ที่ฝนตกหนักและน้ำท่วมเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ลำน้ำวังมีสภาพที่ไหลเชี่ยวแรง
ส่วนชาวบ้านบางรายบอกว่า น้ำวังได้เริ่มเข้าท่วมตั้งแต่เวล 04.00 น โดยพื้นที่ ต.นาแส่ง เป็นพื้นที่ที่ต่ำที่ราบปีที่แล้วก็ถูกน้ำท่วมหนัก แต่ปีนี้ถือว่ายังไม่หนักมากเท่า
แต่ชาวบ้านในพื้นที่หวาดระแวงว่าน้ำอาจจะท่วมสูงขึ้นอีกจากน้ำวังที่สูงขึ้น และหากมีฝนตกลงมาอีก แต่อย่างไรก็ตามช่วงสายวันนี้ บรรยากาศที่ จ.ลำปาง เริ่มเห็นแสงแดดบ้างแล้ว แต่บางจุดก็ยังมีท้องฟ้ามืดครึ้ม ส่วนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังเพราะสถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่น่าไว้วางใจ
http://www.krobkruakao.com
การบริหารจัดการอัตลักษณ์ของตนเองอย่างยั่งยืนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง
14 ก.ย.55 อ.ดร.ศรีศุกร์ นิลกรรณ์ และ อ.แดน กุลรูป ทำงานร่วมกับ ทีมงานวิจัย 14 ท่าน ผู้ช่วยวิจัยอีก 6 ท่าน และนักศึกษาช่วยงาน รวมกว่าีอีก 50 ชีวิต จัดสัมมนา เรื่อง “การบริหารจัดการอัตลักษณ์ของตนเองอย่างยั่งยืนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง” ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเนชั่น โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดี เป็นประธานในพิธีเปิด ผู้ร่วมสัมมนาประกอบด้วยบุคคลจากหน่วยงาน สถานศึกษา ผู้ประกอบการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชนในจังหวัดลำปาง วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคารคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง .. ความสำเร็จในการสัมมนาเกิดจาก เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทีม และภาคีเครือข่าย
ในคลิ๊ปนี้มีบรรยากาศในการประชุม เมื่อวันที่ 14 ก.ย.55
จากเอกสารประกอบการประชุม พบว่า แผนงานวิจัยเรื่อง การจัดการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของอัตลักษณ์ชุมชนลำปาง มีหัวหน้าแผนงานวิจัยคือ ดร.ศรีศุกร์ นิลกรรณ์ และมีโครงการวิจัยย่อย จำนวน 6 โครงการได้แก่
1. การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือที่ยั่งยืนในการจัดการอัตลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดลำปางอย่างสร้างสรรค์ มีนักวิจัยคือ ดร.ศรีศุกร์ นิลกรรณ์ และคุณทักษิณ อัครวิชัย รองปลัด อบจ.ลำปาง
2. การสร้างสรรค์งานประชาสัมพันธ์เพื่อประสิทธิผลด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง นักวิจัยคือ อ.อดิศักดิ์ จำปาทอง อ.ทิวากรณ์ กองแก้ว และอ.ปัทมาภรณ์ สุขสมโสด สถาบันราชภัฎอยุธยา
3. การจัดทำระเบียบว่าด้วยความร่วมมือทางด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง นักวิจัยคือ อ.วราภรณ์ เรืองยศ และคุณสาวิตรี ศรีธนวิบุญชัย นักวิชาการที่ดิน กทม.
4. องค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเล่าชุมชนเพื่อสร้างจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดลำปาง นักวิจัยคือ ดร.สุจิรา หาผล ดร.พรธาดา สุวัธนวนิช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และอ.เกศินีย์ สัตตรัตนขจร
5. การพัฒนาเครือข่ายการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง นักวิจัยคือ ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ สำราญใจ ดร.ศรีศุกร์ นิลกรรณ์ และนายจิรพิพัฒน์ สิงห์สอน
6. การพัฒนาศักยภาพสินค้าหัตถกรรมเพื่อรองรับการท่องเที่ยวจังหวัดลำปางสู่การเป็นประชาคมเศรษาฐกิจอาเซียน นักวิจัยคือ อ.ชินพันธุ์ โรจนไพบูลย์ และอ.นงลักษณ์ สุวรรณวิชิตกุล
รางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขันแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุธรณ์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง แสดงความยินดีกับ นางสาวอรพรรณ จอมแก้ว และ นางสาวสุภาพรรณ ปัญญา นักศึกษา คณะสังคมศาสตรและมนุษยศาสตร์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง ณ ห้องอธิการบดี ในวันที่ 14 กันยายน 2555 ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขันแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์ ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
กระทรวงมหาดไทยระงับการเข้าถึง facebook
เรื่องนี้จริง หรือหลอก .. รอฟังข่าวครับ
ไปพบ tweet ว่า กระทรวงมหาดไทย บล็อก เฟซบุ๊ค
หรือ ปิดกั้น จำกัดสิทธิ์ หยุดให้บริการ กระชับพื้นที่ สิทธิเข้าถึงข้อมูล
มีผล 1 ตุลาคม 2555 คนที่ลำปางย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน
ผมยืนอยู่ฝั่งคนส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกไม่พอใจ
รู้สึกว่าภาครัฐสมัยนี้ ประเมินผล แล้วนำผลประเมินมาใช้
เกิดผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ขององค์กรเป็นที่ตั้ง
จึงค้นจากอินเทอร์เน็ต พบที่ http://faceblog.in.th/2012/09/moi-no-facebook/
มีรายละเอียดว่า
ด้วยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการใช้งานระบบอินเตอร์เน็ตของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
ได้ตรวจสอบการใช้งานของระบบอินเตอร์เน็ตในรอบ 8 เดือน ในปีงบประมาณ 2555
พบว่าโดเมนที่มีจำนวนการเรียกใช้มากที่สุด 10 อันดับแรก
ปรากฏว่าเป็นการใช้บริการดาวน์โหลดข้อมูลภาพและเสียง
ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเว็บไซต์ของต่างประเทศ และมีการเรียกใช้มากในลักษณะออนไลน์
เช่น www.facebook.com เป็นต้น
ซึ่งการใช้งานดังกล่าวไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานราชการ
ทำให้สิ้นเปลืองช่องสัญญาณ (Bandwidth) จำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต
ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เกิดประโยชน์สูงสุด
สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงได้กำหนดมาตรการการใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต
โดยระงับการเข้าถึง Website ที่ให้บริการดาวน์โหลดข้อมูลภาพและเสียง
ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานบางเว็บไซต์ และงดการใช้งานเว็บออนไลน์
เช่น www.facebook.com
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป ในช่วงระหว่างเวลา 08.30-12.00 น. และ 13.00-16.30 น.
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และแจ้งผู้ปฏิบัติงานในสังกัดทราบและถือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวต่อไป
ตามประกาศ เห็นว่า รองปลัดกระทรวงฯ ลงนามมาแล้วครับ