ภาษาเบสิก และกรณีศึกษา | ||
ภาษาโปรแกรม (Program Language) # คือ วิธีการมาตรฐานในการสื่อสารสำหรับแสดงคำสั่งไปยังคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรมกำหนดไวยากรณ์และการตีความหมายจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้น ภาษาโปรแกรมทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถระบุอย่างชัดเจนถึงข้อมูลที่คอมพิวเตอร์จะทำงาน และวิธีการที่คอมพิวเตอร์จะประมวลผลข้อมูลเหล่านั้น
ภาษาเบสิค (Basic Language) คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโดยจอห์น เคมเมนี (John Kemeny) และ ธอมัส เคิรตส์ (Thomas Kurtz) แห่งวิทยาลัยดาร์ทเมิร์ท (Dartmouth College) ในปีค.ศ. 1963 วิชวลเบสิก (Visual Basic) คือ ภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับสร้างโปรแกรมประยุกต์ (Application) ที่ใช้งานได้อย่างหลากหลายบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ และสามารถเรียกใช้วัตถุที่ตัวแปลภาษาเตรียมไว้ให้บริการ |
ตอนที่ 2 : |
Download : chap101.zip |
1. เปิด VB6.0 แล้วเลือก Standard EXE แล้ว Open 2. click Textbox จาก Toolbox 3. เลื่อน mouse ไปที่ form แล้ว click ค้างไว้ พร้อมลากไปทางขวาขนาดพอใส่ข้อมูลได้ 4. ทำตามข้อ 3 สร้าง text2 และ text3 ไว้เตรียมแสดงข้อมูล 5. click Data หรือ Data control จาก Toolbox แล้วทำคล้ายข้อ 3 6. สรุปว่าใน form1 จะมี Object อยู่ 4 Object นะครับ 7. กำหนดคุณสมบัติ หรือ Properties ให้กับ Data1 3 อย่างดังข้อมูลด้านล่าง 8. กำหนดคุณสมบัติ หรือ Properties ให้กับ Text1 2 อย่างดังข้อมูลด้านล่าง 9. กำหนดคุณสมบัติ หรือ Properties ให้กับ Text2 2 อย่างดังข้อมูลด้านล่าง 10. กำหนดคุณสมบัติ หรือ Properties ให้กับ Text3 2 อย่างดังข้อมูลด้านล่าง 11. แล้วก็ save Project หาห้องเก็บให้เป็นระเบียน .. เวลาเรียกมาอีกจะได้หาเจอ 12. ผลการจัดเก็บจะได้ 2 แล้วคือ .vbp และ .frm ถ้า save แล้วก็ลองปิด VB 13. ลองเปิด VB และเปิดแฟ้ม .vbp ขึ้นมาใหม่ดูครับ 14. ถ้ามีปัญหาการทำตาม ให้ไปดูบทที่ 107 เพราะมีไม้เท้าวิเศษ ช่วยสร้างให้หมดครับ
Data1 Properties Databasename = C:\Program Files\Microsoft Visual Studio\VB98\Nwind.mdb RecordType = Table RecordSource = Categories Text1 Properties Datasource = Data1 Datafield = CategoryID Text2 Properties Datasource = Data1 Datafield = CategoryName Text3 Properties Datasource = Data1 Datafield = Description ? ให้เปลี่ยนเป็น table อื่น เช่น Customers หรือ Employees เป็นต้น ? ให้สร้างแฟ้ม .mdb ใช้เอง และเรียก table ของตนเอง |
Download : chap102.zip |
ส่วนของ Data control กำหนดเหมือน 101 DBGrid1 Properties DataSource = Data1 ? ให้เปลี่ยนเป็น table อื่น ? ให้สร้างแฟ้ม .mdb ใช้เอง และเรียก table ของตนเอง |
Download : chap103.zip |
ส่วนของ Data control กำหนดเหมือน 101 คำสั่งควรทราบ Data1.Recordset.AddNew If Len(Trim((Text2)) > 0 Then ? ให้เปลี่ยนเป็น table อื่น ? ให้สร้างแฟ้ม .mdb ใช้เอง และเรียก table ของตนเอง |
Download : chap104.zip |
- Data1.Recordset.Bookmark = เก็บตำแหน่งที่ชี้ใน Data control - Data1.Recordset.Index = กำหนดให้เป็น Primary key ที่จะทำงานกับ seek - Data1.Recordset.Seek = ค้นหาและส่งผลให้ Nomatch ว่าจริงหรือเท็จ - Data1.Recordset.NoMatch = รับผลจากการ seek
Bookmark = Data1.Recordset.Bookmark Data1.Recordset.Index = "PrimaryKey" Data1.Recordset.Seek "=", Val(Text4) If Data1.Recordset.NoMatch Then Data1.Recordset.Bookmark = Bookmark Else Command2.Enabled = True Text1.Visible = True Text2.Visible = True Text3.Visible = True End If If MsgBox("Are you sure to delete?", vbYesNo) = vbYes Then Data1.Recordset.Delete Data1.Refresh Else MsgBox "ไม่มีการปรับปรุงค่า" End If ? ให้เปลี่ยนเป็น table อื่น ? ให้สร้างแฟ้ม .mdb ใช้เอง และเรียก table ของตนเอง |
Download : chap105.zip |
ให้ Properties of DBGrid,Datasource = data1 ให้ Properties of DBGrid,AllowUpdate = false Bookmark = Data1.Recordset.Bookmark Data1.Recordset.Index = "PrimaryKey" Data1.Recordset.Seek "=", Val(Text4) If Data1.Recordset.NoMatch Then Data1.Recordset.Bookmark = Bookmark Else Text1.Visible = True Text2.Visible = True Text3.Visible = True End If Private Sub DBGrid1_click() Text4 = DBGrid1.columns(0) Text4.Refresh End Sub ? ให้เปลี่ยนเป็น table อื่น ? ให้สร้างแฟ้ม .mdb ใช้เอง และเรียก table ของตนเอง |
Download : chap106.zip |
Private Sub Command1_Click() Bookmark = Data1.Recordset.Bookmark Data1.Recordset.Index = "PrimaryKey" Data1.Recordset.Seek "=", Val(InputBox("Get categoryid")) If Data1.Recordset.NoMatch Then MsgBox ("Not found") Data1.Recordset.Bookmark = Bookmark End If End Sub Private Sub Command2_Click() Bookmark = Data1.Recordset.Bookmark Data1.Recordset.Index = "CategoryName" Data1.Recordset.Seek "=", InputBox("Get categoryname") If Data1.Recordset.NoMatch Then MsgBox ("Not found") Data1.Recordset.Bookmark = Bookmark End If End Sub ? ให้เปลี่ยนเป็น table อื่น ? ให้สร้างแฟ้ม .mdb ใช้เอง และเรียก table ของตนเอง |
Download : chap107.zip |
1. เลือก Add-Ins จาก menu bar แล้วเลือก Add-In manager, VB 6 Data Form Wizard แล้ว Click ที่ Loaded/Unloaded แล้วกดปุ่ม OK 2. เลือก Data form wizard ด้วยการ Click ที่ Add-Ins, Data Form Wizard..., Next, เลือก Access แล้วกดปุ่ม Next, "C:\Program Files\Microsoft Visual Studio\VB98\Nwind.mdb", Next, Single record และ ADO Data control, Next, ในช่อง Record source เลือก Categories, เลือก 3 fields แรกมาด้านขวา, next, finish จะได้ form ใหม่ขึ้นมาใน project ของเรา จากนั้นอยากให้ฝึกย้ายปุ่ม แล้วลองฝึกย้าย source code จากฟอร์มหนึ่งไปอีกฟอร์มหนึ่ง ซึ่งผมลองย้ายจากที่สร้างมาใหม่ไป form1 ก็ไม่ยากอะไร
ฟอร์มนี้ไม่ได้เขียน code เลย แค่เรียกตารางมาใช้ ไม่ให้ผิดพลาดก็ ok แล้ว Source code ที่ Wizard สร้างให้ ? ให้เปลี่ยนเป็น table อื่น ? ให้สร้างแฟ้ม .mdb ใช้เอง และเรียก table ของตนเอง |
|
- ข้อมูลใน products ของ nwind.mdb มี 10 fields แต่ลองใช้ 3 fields - สร้าง 5 control ดังภาพ คือ 3 textbox, command และ adodc - เลือก ADODC properties ด้วยการ Right click จาก adodc bar ใน form ? สร้าง command2 เป็นปุ่มเลือกมาข้างหน้า ด้วยคำสั่ง moveprevious ? สร้าง command3 และ 4 เป็นปุ่ม movefirst และ movelast ? เปลี่ยนตารางจาก products เป็นอื่น ๆ (ตารางไหนก็ได้) |