Category Archives: news

อบรมการผลิตสื่อเพื่อสร้างสรรค์การท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง

อดิศักดิ์ จำปาทอง

อดิศักดิ์ จำปาทอง

พบข่าวประชาสัมพันธ์ใน profile ของ อ.อดิศักดิ์ จำปาทอง ว่ามีโครงการดี ๆ น่าแบ่งปัน มีรายละเอียดดังนี้

คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนชั่น จะจัดโครงการฝึกอบรมการผลิตสื่อเพื่อสร้างสรรค์การท่องเที่ยวจังหวัดลำปางขึ้นในวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2556 ณ โรงเรียนลำปางกัลยาณี โดยโครงการมีอาหารกลางวันและอาหารว่างเลี้ยง และค่าเดินทางวันละ 300 บาท สำหรับผู้เข้าอบรมควรมีความสนใจด้านการท่องเที่ยว มีใจรักประชาสัมพันธ์ และมีทักษะการใช้ Social Media พอสมควร

https://www.facebook.com/adisak.champathong

27 ก.ค.2556
08.30-10.00
พิธีเปิดการอบรม
อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร
และการเล่าเรื่องจากภาพ
10.00-12.00
อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง แนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ Facebook
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง
13.00-15.00
อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เทคนิคการตัดต่อ Clip VDO และการใช้ YouTube
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง
15.00-17.00
อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดทำ Weblog และ
การใช้งานเชื่อมต่อ Facebook และ Youtube และ Weblog

28 ก.ค.2556
8.30-10.00
อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เทคนิคการเลือกใช้ภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์
10.00-12.00
อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัลและโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
13.00-17.00
อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เทคนิคการตกแต่งภาพให้สวยงาม
สรุปผลการอบรมเชิงปฏิบัติการ
พิธีปิดการอบรม

โกตี๋ ด่าคนลำปางถึงถิ่นจนมีเรื่อง

lampang politic

lampang politic

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000079506
ลำปาง – หน้ากากขาวสุดทน เสื้อแดงเอา “โกตี๋” แกนนำแดงปทุมธานีข้ามถิ่น ไปยืนบนรถด่าคนลำปางผ่านเครื่องขยายเสียงถึงถิ่น จนเกิดชกต่อยกันกลางเมือง แต่พอท้าให้ลงจากรถกลับไม่กล้า แถมตำรวจให้ท้ายชัด ห้ามหน้ากากขาวใช้เครื่องขยายเสียง กลับปล่อยเสื้อแดงด่าปาวๆ

วันนี้(30 มิ.ย.56) กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 100 คน นำโดยนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือที่รู้จักในชื่อ“โกตี๋” แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ได้เปิดปราศรัยขึ้นที่บริเวณลานข่วงนครห้าแยกหอนาฬิกากลางเมืองลำปาง โดยโกตี๋ได้ยืนอยู่บนรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง ปราศรัยให้กลุ่มคนเสื้อแดงลำปาง ขัดขวางการมารวมตัวของกลุ่มคนหน้ากากขาวลำปาง ที่มายืนรออยู่ในจุดที่เคยจัดกิจกรรมทุกวันอาทิตย์ คือ บริเวณลานน้ำพุห้าแยกหอนาฬิกา ประมาณ 50 คน เพื่อรอร้องเพลงชาติไทยช่วงเวลา 18.00 น.

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำแผงเหล็กมากั้นแยกทั้งสองกลุ่มไว้ เพราะหวั่นเกิดการทะเลาะวิวาทกันของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย

แต่ก่อนจะถึงเวลาเคารพธงชาติประมาณ 10 นาที ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันขึ้น หลังคนเสื้อแดงคนหนึ่งได้เดินจะข้ามไปยังฝั่งที่มีคนหน้ากากขาวอยู่ แต่เมื่อเดินเกือบจะถึงได้มีชายสวมใส่เสื้อเหลือง 1 คน ได้เดินเข้ามาล็อคตัว ชายเสื้อแดงจึงชกเข้าที่ใบหน้าคนสวมเสื้อเหลือง ก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินตามมาจะเข้ามาดึงตัวชายเสื้อแดงกลับไป ส่วนชายเสื้อเหลืองได้เดินกลับเข้าไปอีกฝั่ง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปกันตัวเอาไว้ แต่ก็ยังมีเสื้อแดงบางคนวิ่งตามเข้าไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามากันตัวออกไป

ขณะที่บนรถกระจายเสียงโกตี๋ ยังคงได้ปลุกระดมให้กลุ่มคนเสื้อแดงตามตัวชายเสื้อเหลืองมาให้ได้ พร้อมกับด่าท้อด้วยคำพูดที่หยาบคายตลอดเวลา

หลังจากนั้น กำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.เมือง นำตัวชายเสื้อเหลืองไปสอบปากคำ และเมื่อถึงเวลา 18.00 น. กลุ่มหน้ากากขาว ก็ได้ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย และเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน

แต่ที่สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มหน้ากากขาว ก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเฝ้าห้ามไม่ให้มีการใช้เครื่องกระจายเสียง กลุ่มหน้ากากขาวจึงมีเพียงสัญญลักษณ์ คือ การสวมหน้ากาก ถือธงชาติ และมารวมตัวกันชูป้ายพร้อมกับการรอร้องเพลงชาติเท่านั้น แต่ทว่าอีกฝ่าย คือ กลุ่มเสื้อแดง กลับมีรถติดเครื่องกระจายเสียง โดยมี “โกตี๋” ยืนปราศรัยด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายบนรถ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าห้ามปราม หรือทำการยึดเครื่องเสียงเหล่านั้น เพื่อไม่มีมีการยั่วยุกัน จนทำให้กลุ่มหน้ากากขาวบางคนที่ไม่พอใจ ที่ให้คนต่างถิ่นมายืนด่าคนลำปางบนรถ จึงได้มีการเรียกให้คนที่พูดบนรถลงมา แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้จนสุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้

ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะมารวมตัวที่ห้าแยกหอนาฬิกา กลุ่มคนเสื้อแดงได้ให้ “โกตี๋” ขึ้นรถปราศรัยด่ากลุ่มหน้ากากขาว โดยนำรถเคลื่อนไปยังบริเวณหน้าเสรีสรรพสินค้า กลางเมืองลำปาง โดยตอนแรกมีโปรแกรมว่าจะปักหลักหน้าห้างดังกล่าว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหยุดรถได้ เนื่องจากมีกลุ่มหน้ากากขาวไปยืนรอ และเรียกให้ “โกตี๋” ลงจากรถ แต่โกตี๋ไม่กล้าลง เพียงแต่ขับรถผ่านห้างดังกล่าว แต่ก็ถูกคนที่อยู่บนถนนใช้ไข่ปาใส่ เนื่องจากมาด่าคนลำปางถึงถิ่น

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000079506

วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2556 ที่โรงพยาบาลลำปาง

บรรยากาศบริจาคโลหิตที่ลำปาง

บรรยากาศบริจาคโลหิตที่ลำปาง 8.45 – 9.30น.

เล่าสู่กันฟังว่า .. ผมบริจาคหลายครั้งทีเดียว
แต่เมื่อ 20 ปีก่อนเคยเป็นลมที่โรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่
หลังบริจาคเลือดเสร็จก็วูบไป
ตั้งแต่นั้นมาก็จะขอแอมโมเนียมาสูดดมให้อุ่นใจเสมอ
วันที่ 16 มิ.ย.56 แม้มีแอมโมเนียอยู่ในมือ
แต่ก็รู้สึกวูบไป 1 วินาที หลายครั้งก่อนออกโรงพยาบาล
สงสัยเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย อายุ 44 ปี ไม่ฟิตเหมือนเมื่อก่อน
ต่อไปต้องนอนให้เต็มอิ่มแล้ว
สรุปว่าแอมโมเนียช่วยได้เสมอ ไม่ถึงกับวูปไปเป็นนาที

ข่าว .. ระหว่างนอนรอเลือดไหลลงถุง
คุณป้าประชาสัมพันธ์ ก็แจ้งว่าครั้งต่อไปเป็น 12 สิงหาคม
จะจัดงานที่อาคารใหม่ ใหญ่กว่า เย็นกว่า และปูพรมด้วย
แต่เป็นวันจันทร์ และอยู่ใน 3 เดือน ผมคงไม่ได้ร่วมกิจกรรมนั้น

 

บัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิต

บัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิต

วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2556 (World blood donor day 2556)
คำขวัญ “มอบโลหิต เป็นของขวัญต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์
Every blood donation is a gift of life

โรงพยาบาลลำปาง
ขอเชิญชวนผู้มีจิตกุศลทุกท่านร่วมบริจาคโลหิต
เนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2556
เพื่อเป็นของขวัญในการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์
ในวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2556
ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.00น.
ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลลำปาง 1 (อาคารผู้ป่วยนอก)
ทั้งนี้ผู้ร่วมบริจาคโลหิตทุกท่านจะได้รับใบประกาศเกียรติบัตร
พร้อมเสื้อยืดแทนคำขอบคุณ

blood donation in lampang

blood donation in lampang

http://www.lph.go.th/lampang/

พายุเข้า อ.เถิน จ.ลำปาง โรงเรียนประกาศปิดเรียน 1 วัน

พายุฝนฟ้าคะนอง

พายุฝนฟ้าคะนอง

19 พ.ค.56  นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ นายอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ได้เข้าตรวจสอบและเยี่ยมชาวบ้านผู้ประสบภัยพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในหลายหมู่บ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังคาบ้านเรือนประชาชนกว่า 320 หลัง ได้รับความเสียหาย ขณะที่เทศบาลตำบลล้อมแรดจะนำกระเบื้องกว่า 4,000 แผ่นแจกจ่ายชาวบ้าน ส่วนต้นไม้ใหญ่ที่หักโค่นปิดทับเส้นทางต่าง ๆ เจ้าหน้าที่เร่งนำออกไปแล้วเป็นบางส่วน โดยเฉพาะบนถนนสาย อ.เถิน – อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ที่มีต้นไม้ใหญ่และต้นไม้เล็ก ตลอดจนกิ่งไม้ หักโค่นปิดทับเส้นทางกว่า 30 จุด ได้เปิดเส้นทางตามปกติแล้ว

โรงเรียนเถินวิทยาได้ประกาศปิดเรียนในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ 1 วัน เพราะหลังคาห้องบางส่วนปลิวไปกับแรงลมและพื้นที่ มีต้นไม้หักโค่นลงมา โดยเฉพาะหักโค่นทับบ้านพักครู 1 หลัง จึงต้องเร่งฟื้นฟูก่อนที่จะเปิดเรียน.

สำนักข่าวไทย

http://www.mcot.net/site/content?id=51988599150ba0d92d00024a#.UZjaqq7_n0s

โรงเรียนเถินวิทยา tws.ac.th

โรงเรียนเถินวิทยา tws.ac.th

http://www.facebook.com/media/set/?set=a.474282982646890.1073741834.100001955781915

รับสมัครงานด่วน 15,000 บาทขึ้นไป

รับสมัครงาน พนักงานขาย

รับสมัครงาน พนักงานขาย

27 เม.ย.56 ไปเดิน BigC ลำปาง ซื้อเสบียงอาหารมากักตุ้นไว้ทาน เห็นป้ายน่าสนใจด้วยหลายเหตุผล ในบูทขายหนังสือไพลิน หน้าร้าน KFC เพราะปิดเทอมใหญ่ ที่บ้านกำลังต้องการนิยายเป็นหนังสืออื่นนอกเวลา จึงได้กลับมา 2 เล่ม ราคาปกเล่มละ 170 บาท ลดเหลือ 50 บาท

ป้ายนี้ให้ข้อมูลว่า รับสมัครงานด่วน! พนักงานขายหนังสือในห้างสรรพสินค้า เพศหญิง รายได้เดือนละ 15,000 – 18,000 บาท วุฒิการศึกษา ม.3 อายุ 18 ปีขึ้นไป .. น่าสนใจครับ
http://www.pailinbooknet.com

pailinbooknet.com

pailinbooknet.com

ม.ให้อะไร .. พงษ์สิทธิ์ คำภีร์
มีคำถามอยู่ในเพลง .. ชวนให้คิด

http://www.youtube.com/watch?v=e0c3tofngIc

 

ห้ามปล่อยโคมไฟ

ห้ามปล่อยโคมไฟ

ห้ามปล่อยโคมไฟ

เพื่อนที่ลำปางพัฒนากิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมตลอดเวลา
มีเรื่องเล่า และเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากมาย
ภาพนี้ถ่ายเมื่อ ปลายพฤศจิกายน 2555
บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา ลำปาง
วันนั้นมีกิจกรรมประกวดสะเปาบก ตั้งขบวนในหลายจุดรอบหอนาฬิกา
อาทิ หน้าวัดเชียงราย ข้างเทศบาล ซึ่งเดิมจะใช้การเดินขบวนไปตามถนนจากรถไฟ
ป้ายนี้เขียนว่า “ห้ามปล่อยโคมไฟ” .. ก็คงมีความหมายดังภาพ

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151245430333895&set=pb.814248894.-2207520000.1364976875

ประชาสัมพันธ์การประชุมสภาเทศบาล

ประชาสัมพันธ์การประชุมสภาเทศบาล

ประชาสัมพันธ์การประชุมสภาเทศบาล

ตามประกาศว่า ขอเชิญเข้าร่วมรับฟัง
การประชุมสภาเทศบาลนครลำปาง
วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2556 เวลา 10.00 น.
ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลนครลำปาง

ถ้าอ่านรายละเอียดในประกาศก็จะทราบว่า ชาวลำปางที่สนใจการเมืองท้องถิ่น
สามารถขอเข้าร่วมรับฟังการประชุมสภาเทศบาลนครลำปางได้
ซึ่งน่าจะเป็นกับทุกเทศบาล หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง
ท่านใดที่สนใจเข้าฟังก็ติดต่อไปได้ครับ
การเมืองไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง เป็นเรื่องของทุกคน

ใช้เครื่องข่ายสังคมเพื่อสื่อสาร (itinlife 383)

fb ของกองการศึกษา

fb ของกองการศึกษา

มีโอกาสฟังคุณศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เล่าถึงการพัฒนาที่จังหวัดเพชรบูรณ์ก่อนมาที่ลำปางว่ามีการสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสื่อสาร ด้วยการเปิดเฟซบุ๊คของส่วนราชการ องค์กร หรือชุมชน ก็จะเป็นการเพิ่มช่องทางในการแลกเปลี่ยนระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกัน หรือเจ้าหน้าที่กับประชาชน ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลเสมือนกลไกขับเคลื่อนให้กลไกอื่น ๆ หมุนล้อไปตามกันให้ภาพใหญ่ปรากฎออกมาเด่นชัด เป็นแรงกระเพื่อมอีกแรงที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายขององค์กร ปัจจุบันประชาชนเข้าถึงเฟสบุ๊คเกือบ 20 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

แนวคิดของท่านรองฯ ทำให้ผู้เขียนนึกถึงชุดโครงการวิจัยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ลำปาง ของ อาจารย์อดิศักดิ์ จำปาทอง มีกิจกรรมหนึ่งที่จะจัดให้ผู้ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเข้ารับการอบรมฝึกทักษะเรื่องการใช้ Social Media สนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งจัดไว้ 3 หัวข้อตามลักษณะบริการสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ Blog, Facebook.com และ Youtube.com แต่ผู้เข้ารับการอบรมควรมีความเข้าใจใน 3 เรื่องสำคัญ คือ ความรู้เรื่องแหล่งท่องเที่ยวของตน ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับไอที และความเข้าใจเรื่องการจัดทำสื่อมัลติมีเดีย อาทิ การใช้คอมพิวเตอร์ การถ่ายภาพ

แฟนเพจ (Fan Page) เป็นระบบเผยแพร่ แลกเปลี่ยนข่าวสารที่เปิดให้ใช้บริการฟรีโดยเฟสบุ๊ค ผู้เป็นสมาชิกของแฟนเพจสามารถสมัครสมาชิกโดยการกดปุ่มไลค์ (Like button) และไม่ต้องรอรับการยืนยันจากผู้ดูแลเพจ แล้วสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นหรือรับเรื่องราวผ่าน Feed ได้ทันที สามารถนำมาใช้ได้ในระดับองค์กรเพื่อรับความคิดเห็นจากสาธารณะ หรือประชาสัมพันธ์ข่าวสารได้ แฟนเพจในปี 2555 ที่มีคนกดไลค์มากกว่า 1.7 ล้านในไทย คือ 1) ไพ่เท็กซัส 2) ตันภาสกรนที 3) nerkoo.com 4) อัพยิ้มดอทคอม 5) bodyslam หากท่านสนใจการทำแฟนเพจสามารถเรียนรู้จากเพจข้างต้น แต่ก็ต้องไม่ลืมเอกลักษณ์ของตน หากแฟนเพจทางการแพทย์ไปโพสต์เรื่องดูดวงตามราศี หรือแฟนเพจโรงเรียนมัธยมชวนสมาชิกเล่นเกม หรือแฟนเพจธรรมะชวนดูหนังจันดาราก็คงไม่เหมาะอย่างแน่นอน

 

http://th-th.facebook.com/permalink.php?story_fbid=247968515325777&id=259176487524058

 

 

 

ขาดแคลนแรงงานไอทีอย่างหนัก เหตุเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว

IT worker

IT worker

อุตสาหกรรมไอที” ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก เหตุเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ขณะที่ตลาดยังมีความต้องการแรงงานไอทีสูง “สวทช.” แนะคนไอทีพัฒนาทักษะเพิ่มผ่านกลไกรัฐช่วยหนุน ผ.อ.”ไอเอ็มซี” ชี้คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ
ปัญหาจำนวนแรงงานหรือบุคลากรระดับผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เคยเพียงพอของวงการไอทีกลายเป็น “ประเด็นคลาสสิค” ที่ยังไม่มีทีท่าจะเบาบางลง แต่กลับกันยิ่งดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นแปรผันตรงแถมยังตามหลังแบบห่างๆ เมื่อเทียบกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและยิ่งดูสถานการณ์จะยิ่งย่ำแย่เมื่อวัดกันถึงแรงงานระดับ “คุณภาพ” ที่จะสามารถต่อยอดเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมได้มากกว่าจะเป็นแรงงานไอทีทั่วไป

หลักสูตรตามไม่ทันเทคโนฯ
นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)กล่าวว่า ส่วนของภาคไอทีนั้นแรงงานเข้าขั้น “ขาดแคลนหนัก” โดยมีหลายปัจจัย เช่น หลักสูตรการเรียนการสอนตามสถาบันการศึกษา ไม่ได้รับการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงให้ทันกับโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเร็วมาก ส่วนใหญ่หลักสูตรที่สอนตามมหาวิทยาลัยก็จะมุ่งเน้นการสอนตามทฤษฏีหลักๆ แต่ไม่เน้นในเรื่องของการนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม
“ปัญหาสำคัญ คือ เราตามเทคโนโลยีกันไม่ทัน หลักสูตรการเรียนการสอนที่มีเมื่อนักศึกษาจบมา ไม่ตรงกับคุณสมบัติหรือความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ทำให้ไทยเสียโอกาสในการพัฒนาคนเก่งๆ ในเรื่องไอที ดังนั้นจึงมีความพยายามระหว่างหน่วยงานด้านไอทีของประเทศ และสถาบันการศึกษาในการพัฒนาคนให้เหมาะกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม”
นางสุวิภา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันแรงงานด้านไอทีในไทยทั้งอุตสาหกรรมมีเพียงแค่ 50,000 คน แต่ละปีเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 5,000 คน เท่านั้น ซึ่งหากเทียบกับประเทศเวียดนามแล้ว ถือว่าไทยยังห่างไกลมาก เพราะเวียดนามมียุทธศาสตร์ในเรื่องนี้ชัดเจนโดยตั้งเป้าว่าปี 2015 จะต้องมีโปรแกรมเมอร์ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน
“ต้องยอมรับว่า แรงงานไอทีของไทย ยังหาคนที่เก่งจริงๆ ยาก เราต้องพยายามพัฒนาแรงงานไอทีเฉพาะทางให้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ขณะที่ แรงงานไอทีที่มีอยู่แล้ว ต้องพยายามเพิ่มทักษะ หรือ Re-skill ตัวเองขึ้นมาให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ต้องไปหาความรู้เพิ่ม ซึ่งความรู้พวกนี้ปัจจุบันสามารถเรียนผ่านเว็บได้ทั้งหมด มีเครื่องมือที่เข้าถึงง้ายขึ้นกว่าในอดีต ขณะเดียวกันก็ต้องมีกลไก จูงใจคนที่คิดจะเข้ามาสู่แรงงานภาคไอทีว่า เขาสามารถพัฒนาทักษะและขึ้นเป็นเจ้าของกิจการได้ ไม่ใช่เป็นได้แค่ลูกจ้างเท่านั้น”
อย่างไรก็ตามเธอยังบอกด้วยว่า แรงงานไอที ควรต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของตัวเองขึ้นมา โดยเฉพาะในระดับโปรเจค แมเนจเม้นท์ เพราะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะสามารถใช้เอาท์ซอร์สจากประเทศเพื่อนบ้านได้
“ขณะนี้ สวทช.กำลังผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรม เพื่อสอนหลักสูตรในด้านไอทีที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม เมื่อเด็กจบมาก็ให้ฝึกงานกับบริษัทนั้นๆ ได้เลย ดิฉันมองว่า เด็กไทยเก่งๆ รวมถึง บุคคลากรด้านไอทีขณะนี้ยังรับทักษะใหม่ๆ ได้อีกมาก แต่ต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ขณะนี้ รัฐเองก็มีกลไกสนับสนุนในเรื่องของภาษี คือ ให้พนักงานไปพัฒนาทักษะไอทีเพิ่มเติม แล้วนายจ้างสามารถนำค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมาหักภาษีได้” นางสาวสุวิภา กล่าว

ย้ำ”คุณภาพ”สำคัญกว่าปริมาณ
นายธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็มซี ศูนย์รวมข้อมูลเชิงวิชาการสำหรับอุตสาหกรรมไอซีทีในไทย ระบุว่า แรงงานไอทีเป็นปัญหาที่มีมาต่อเนื่อง แต่ประเด็นที่สำคัญกว่าการผลิตบุคลากรให้ได้ปริมาณตามความต้องการของตลาดคือ “คุณภาพ” รวมถึงยังควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่คนไทยถนัด เพราะพื้นฐานคนไทยส่วนใหญ่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ดีกว่าการเป็นผู้ผลิตหรือพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่
“เราต้องเน้นเรื่องของคุณภาพมากกว่ามองเรื่องตัวเลขแรงงานอย่างเดียว เหมือบกับอาชีพหมอที่ยุคไหนๆก็ไม่เพียงพอ ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นหมอได้หมด แต่ต้องดูด้วยว่าเราถนัดทางไหน ดูจากภาพรวมแล้วจุดแข็งของไทยที่มองเห็นคือ การทำเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ที่จะเห็นว่ามีบริษัทเกิดใหม่เกี่ยวกับไอทีช่วงนี้เยอะ และเป็นไปได้มากกว่าการจะเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์องค์กรใหญ่ๆ หรือรับงานเอาท์ซอร์สจากต่างประเทศ”
ผู้อำนวยการไอเอ็มซียังมองว่า การสร้างแรงงานด้านไอทีอาจไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงไอซีทีเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องเกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการที่มีบทบาทโดยตรงต่อการสร้างพื้นฐานการศึกษา เพราะคนจะเก่งด้านไอทีควรต้องมีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์แข็งแกร่ง ซึ่งควรต้องได้รับการกระตุ้นหรือส่งเสริมด้วยการศึกษาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
ส่วนค่าแรงไอทีสำหรับตลาดไทยจัดอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศในแถบเดียวกัน เช่น เวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งค่าแรงไอทีเริ่มต้นโดยเฉลี่ยยังไม่เกิน 10,000 บาท ขณะที่ไทยมีค่าแรงขั้นต้นสูงกว่ามาก และเกินกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 15,000 บาทมานานแล้ว
อย่างไรก็ตามประเด็นที่น่ากังวลกว่าคือ ความสนใจของเยาวชนที่ปัจจุบันเริ่มมองสาขาวิชาที่เรียนง่าย ไม่ซับซ้อน จบแล้วมีงานทำ ทำให้กระแสการเรียนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มน้อยลงไปด้วย

วิศวะ-ไอที ตลาดยังต้องการ
นางสาวธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ไทย-เวียดนาม กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ ประเทศไทย จำกัด บริษัทให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลครบวงจร กล่าวถึงแนวโน้มการจ้างแรงงานปี 2556 ว่า ตำแหน่งที่คนทำงานมองหามากที่สุด คือ การตลาด วิศวะ และไอที ซึ่งปี 2555 มีผู้สมัครงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบทุกสายอาชีพ โดยตำแหน่งการตลาดเป็นตำแหน่งที่คนทำงานมองหามากที่สุด แต่จำนวนเปิดรับยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มคนทำงาน ทำให้เกิดการแข่งขันสูง
พร้อมกันนี้ สภาพการจ้างงานในประเทศกำลังพัฒนาจะต้องการแรงงานระดับปฏิบัติการเพิ่มมากขึ้น แต่กลับเกิดสถานการณ์ “Talent shortage” หรือขาดแคลนแรงงานที่มีขีดความสามารถสูง หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่เป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆ ในระดับบริหารงาน

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130206/489083/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2.html