Category Archives: education

ครูแถวหน้า

http://www.youtube.com/watch?v=YCVnVfbJs6c

นักศึกษาผู้ใหญ่ หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
รวมกลุ่มกันทำ fan page ชื่อ “ครูแถวหน้า
โดยใช้กระบวนการวิจัย 5 ขั้นตอนตามคลิ๊ป

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2/144972429026008

จุดเด่นกลุ่มนี้
– ทุกคนมีเครือข่าย และใช้เครือข่ายอย่างเต็มที่
– เนื้อหาดี ใช้ประโยชน์จากวรรณกรรมได้ชัดเจน
– ความพยายามส่งผลตรงต่อยอดคลิ๊ก
– หัวข้อตรงกับสายงานของทีม
– ชื่อเพจเป็นหัวข้อที่ท้าทายกระแสสังคม

http://thaiabc.com/lampangnet/admin/881/

ความคิดเห็นเพิ่มเติม
ถ้ารู้จัก [ใช้เครือข่าย] ให้เป็นประโยชน์
ประโยชน์ก็คงไม่หนีหายไปไหน
กลับมาตกอยู่ที่เรานั่นเอง ..
กลุ่มนี้เด่นหลายอย่าง
ไม่งั้นคงไม่ได้ยอดไลค์เพจ 400 ใน 2 สัปดาห์

งานวาดการ์ตูน แสดงเหตุการณ์ present simple tense

toondoo

toondoo

เห็นเด็ก ๆ ช่วยกันวาดการ์ตูนผ่านเว็บไซต์ตั้งแต่เย็น
พอตกดึกมาปรึกษาว่า ส่งอย่างไรไม่เข้าใจ แล้วอะไรคือ URL
ศัพท์ URL = Uniform Resource Locator หรือ Web Address

สรุปว่าในวิชาภาษาอังกฤษที่สอนนักเรียน ม.3
คุณครูได้รับงานมอบหมายให้วาดการ์ตูนแสดงเหตุการณ์
พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ แบบ present simple tense
จำนวน 3 scene โดยมีตัวอย่าง และวิธีการให้เรียนรู้ใน album ของ fb

อันที่จริง เด็ก ๆ ก็ส่งได้ แต่ปัญหาคือ ภาพตัวอย่างขั้นตอนต่างกับที่ทำ
ที่ปรากฎไม่เหมือนกับภาพที่เห็นในจอภาพ
ซึ่งภาพที่ครูแบ่งปันมามีไม่มีขั้นตอนการ publish
แต่ในตัวอย่างเลือก private แล้ว share ให้ครูทางอีเมล
ถ้าทำตามขั้นตอนก็จะไม่เห็นผลงานที่ publish แบบของคุณครู
ก็สรุปว่า publish ก่อน แล้วค่อย share ผ่านอีเมลส่งครู

เมื่อทำตามขั้นตอนที่แนะนำแล้ว ก็ต้องส่งงาน 2 แห่ง
1. เลือก save as แล้ว share ให้คุณครูทางอีเมล
2. post toondoo profile url ใน fb group

http://www.toondoo.com/

ใช้เทคโนโลยีบันทึกข้อมูลการมาสาย (itinlife399)

นายสุริยะ ศรีสุข รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริหารงานบุคคล

นายสุริยะ ศรีสุข รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริหารงานบุคคล

มีโอกาสประชุมเชิงปฏิบัติการ เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย เมื่อ 25 พ.ค.56 เรื่องแก้ปัญหานักเรียนมาโรงเรียนสาย ณ ห้องประชุมเสือป่า ดำเนินการโดยครูสุริยะ ศรีสุข รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริหารงานบุคคล ในการประชุมครั้งนี้แบ่งเป็นระดับชั้น และกลุ่มของผมก็มีครูวีระ ทองทาบวงศ์ จากวิทยาลัยการอาชีพเกาะคาเป็นประธานกลุ่ม ม.3  และครูธนพล  กันยะติ๊บ จากวิทยาลัยสารพัดช่างลำปาง ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน โดยท่านรองฯ ได้ให้ข้อมูลก่อนเปิดเวทีในกลุ่มว่า นักเรียนที่มาสายส่วนใหญ่เป็น ม.6 และ ม.5 รองลงไป ส่วนมัธยมต้นแทบไม่มีปัญหา และการมาสายมีร้อยละ 1 หรือประมาณ 50 คนในแต่ละวัน เกิดมากในภาคเรียนที่ 2  ซึ่งประธานกลุ่มได้นำเสนอว่าผู้เกี่ยวข้องมีทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง อาจารย์ที่ปรึกษา และระเบียบ โดยเสนอให้สร้างความตระหนักให้กับนักเรียนว่าการมาสายทำให้คะแนนความประพฤติหายไป และอาจส่งผลให้ไม่สำเร็จการศึกษาตามแผน

ครูธนพล  กันยะติ๊บ วิทยาลัยสารพัดช่างลำปาง

ครูธนพล กันยะติ๊บ วิทยาลัยสารพัดช่างลำปาง

ข้อมูลการมาสายนี้ เดิมใช้ระบบบันทึกด้วยมือ (Manual) โดยนักเรียนที่มาสายเขียนชื่อลงไปในแบบฟอร์ม แต่นักเรียนเขียนชื่อดาราบ้าง ชื่อครูบ้าง ทำให้ข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นจริง จึงได้ร่วมกับงานคอมพิวเตอร์พัฒนาระบบบันทึกการมาสายของนักเรียน โดยให้นักเรียนกรอกรหัสนักเรียน แล้วแสดงหน้าตา หากครูยืนยันความถูกต้องว่าตรงกันแล้ว (Verify) ก็จะบันทึกข้อมูลลงไป แล้วนำข้อมูลมาสรุปจัดทำรายงานเป็นสารสนเทศ (Information) สรุปในแต่ละสัปดาห์ส่งให้กับหัวหน้าสายชั้น และครูที่ปรึกษานำไปติดตามนักเรียนรายบุคคล แต่ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเปิดเวทีแลกเปลี่ยนครั้งนี้กับผู้ปกครองเพื่อให้ได้แนวทาง มีความเข้าใจร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาต่อไป

ครูวีระ ทองทาบวงศ์ จากวิทยาลัยการอาชีพเกาะคา

ครูวีระ ทองทาบวงศ์ จากวิทยาลัยการอาชีพเกาะคา

ตัวแทนผู้ปกครองสะท้อนปัญหาว่าภาคเรียนที่ 2 นักเรียน ม.6 จะไปสอบตรงกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ บ่อยครั้ง กลับมาถึงลำปางโดยรถทัวร์ในช่วงเช้า กว่าจะกลับบ้าน อาบน้ำ แต่งตัว แล้วไปเรียนวิชาแรกก็อาจไม่ทัน ทำให้สถานะการไปเรียนในวันนั้นเป็นสาย (Late) ส่วนตารางเรียนของคุณครูก็อาจไม่ได้เรียน 8 โมงเช้าทุกวัน อาจเริ่มเรียน 10 โมงบ้าง บ่ายโมงบ้าง หรือครูติดประชุมแล้วปรับเปลี่ยนตารางเรียน ทั้งหมดก็เป็นมุมมองของผู้ปกครองที่ทราบจากนักเรียน ส่วนโรงเรียนก็มีเกณฑ์ชัดเจนว่าถ้ามาสายก็จะถูกหักคะแนนความประพฤติ และเป็นผลให้ไม่สำเร็จการศึกษา หากมีปัญหาก็ต้องแก้ไขแต่ละรายไป ก็มีหลายมุมมอง และหลายข้อมูลที่ท่านรองฯ จะได้นำไปพิจารณาดำเนินการเป็นลำดับต่อไป

หน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาสัญจร ณ ม.เนชั่น ลำปาง

หน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาสัญจร

หน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาสัญจร

หน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาสัญจร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ร่วมกับ
สำนักบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง

จัดโครงการ “หน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาสัญจร
ในสถาบันการศึกษาเขตภาคเหนือตอนบน
เพื่อบริการให้คำปรึกษา แนะนำ ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ช่วยเตรียมเอกสารยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา (ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร (การประดิษฐ์/ออกแบบ) อนุสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ความลับทางการค้า พันธุ์พืช

ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคารคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง
ในวันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2556 เวลา 08.30 – 15.00 น.
(โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย .. ฟรี)

schedule

schedule

 

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=636415323039269&set=pb.506818005999002.-2207520000.1367930097.

ติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง
โทร. 054-265170-6 ต่อ 161 หรือ 210
http://www.tloubi.cmu.ac.th/

วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง

วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง

ข้อกำหนดจัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง

ข้อกำหนดจัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง

วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕ สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
มีมติให้ออกข้อกำหนด ให้จัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง
โดยยกฐานะโครงการขยายห้องเรียนวิทยาเขตแพร่
ซึ่งตั้งอยู่ ณ วัดบุญวาทย์วิหาร ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
ขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
http://www.mculampang.com
http://www.facebook.com/mculampang

รับสมัครพระภิกษุ สามเณร และบุคคลทั่วไป

รับสมัครพระภิกษุ สามเณร และบุคคลทั่วไป

การแข่งขัน NJ Spelling bee 2013 รอบคัดเลือกประจำภาคเหนือตอนบน

การแข่งขัน NJ Spelling bee 2013
ครั้งที่ 16
ชิงรางวัลทุนการศึกษาเรียนภาษาอังกฤษ ณ ต่างประเทศ
รอบคัดเลือกประจำภาคเหนือตอนบน
ระหว่าง 25 – 27 กรกฎาคม 2556
ณ มหาวิทยาลัยเนชั่นลำปาง และ มหาวิทยาลัยนเรศวร
http://www.njspellingbee.net/

http://blog.nation.ac.th/?p=2380

ประวัติความเป็นมา
http://www.njspellingbee.net/aboutus.php

จากการแข่งขันที่มีผู้เข้าร่วมแข่งขันเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ แต่หลังจากที่ได้จัดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 13 ปี โครงการ NJ Spelling Bee ซึ่งเป็นการแข่งขันสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมปลาย ได้กลายเป็นการแข่งขันที่ได้รับการยอมรับจากทั้งนักเรียนและอาจารย์จากทั่ว ประเทศ นอกจากจะเป็นโครงการใหญ่ประจำปีของ NJ แล้ว Spelling Bee ยังอยู่คู่กับนิตยสารมานานกว่าทศวรรษ โดยเริ่มจัดเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2541 โดยในแต่ละปีที่ผ่านมานั้น เราได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐ และเอกชน รวมไปถึงสถานศึกษาต่างๆ เป็นอย่างดีตลอดมา

ณ จุดเริ่มต้น NJ Spelling Bee ถูกจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการฟังและการสะกดคำ ให้กับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยจัดการแข่งขันออกไปตามภูมิภาค ต่างๆ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง เช่นเดียวกับในปัจจุบัน โดยรูปแบบการแข่งขันแบ่งออกเป็น การสะกดคำด้วยการเขียนในรอบคัดเลือก และการสะกดคำด้วยปากเปล่าในรอบชิงชนะเลิศ และพิธีกรหลักคนแรกในการแข่งขันนี้ก็คือ แอนดรูว์ บิกสส์ บรรณาธิการของ NJ ในยุคนั้น ซึ่งเป็นซูเปอร์สตาร์คนแรกๆ ของวงการการสอนภาษาอังกฤษในบ้านเรา หลังจากนั้น NJ Spelling Bee ได้มีพิธีกรหน้าใหม่ฝีมือดีอีกหลายคนมาร่วมสร้างสีสันให้กับการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น ‘คริส’ คริสโตเฟอร์ ไรท์ คุณครูภาษาอังกฤษสุดแนวเจ้า ของรายการทอล์คโชว์ Chris Unseen The Show หรือ ‘พี่เต้’ สุผจญ กลิ่นสุวรรณ จากรายการโทรทัศน์ English Breakfast ซึ่งเป็นพิธีกรคนปัจจุบันของเรา

ถึงแม้ว่าจำนวนนักเรียนในแต่ละภูมิภาคที่เข้าร่วมการแข่งขันในยุคแรกๆ จะมีเพียงแค่หลักร้อยต้นๆ เท่านั้น แต่ด้วยรางวัลใหญ่ที่แชมป์และรองแชมป์ระดับประเทศจะได้รับ ซึ่งก็คือ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ  พร้อมทุนการศึกษาไปเรียนภาษาอังกฤษในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก อย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ ก็เป็นสิ่งล่อใจเหล่าผึ้งน้อยนักสะกดคำได้เป็นอย่างดี ทำให้จำนวนผู้เข้าแข่งขัน NJ Spelling Bee จึงเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างในปีล่าสุดนี้มีผู้เข้าชิงชัยในการแข่งขันระดับภูมิภาคในบางภาคมากถึง เกือบพันคน

ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมาของ NJ Spelling Bee ท่ามกลางผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากนี้ เชื่อหรือไม่ว่ามีหลายคนที่กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็น ที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ‘น้องเอมี่’ อาเมเรีย จาคอป มิสทีนไทยแลนด์ปี 2006 ซึ่งโด่งดังจากละครทีวี ธิดาวานร หรือแม้กระทั่งอนาคตคุณหมอเสียงดีแห่งค่าย The Star 6 ‘น้องริท’ เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช ก็เคยเข้าร่วมแข่งขันสะกดคำกับ NJ ด้วยเหมือนกัน

จากความสำเร็จและการตอบรับที่ได้รับมาตลอด ทำให้เรามีความตั้งใจที่พัฒนา Spelling Bee ให้เป็นการแข่งขันที่ทันสมัยและเข้าถึงนักเรียนทั่วประเทศอย่างแท้จริง โดยในปีนี้จะเป็นปีแรกที่รูปแบบการแข่งขันจะก้าวไปสู่ยุคดิจิตัล โดยเราได้จัดให้การแข่งขันรอบคัดเลือกเป็นการแข่งแบบออนไลน์ขึ้นเป็นครั้ง แรก ผ่านทางเว็บไซต์ www.247friend.net ช่องทางนี้จะเปิดกว้างให้กับนักเรียนที่สนใจเข้าร่วมแข่งขัน แต่ที่ผ่านมาอาจติดขัดด้วยปัญหาบางประการ เช่น การเดินทาง ค่าใช้จ่าย รวมถึงความไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง ได้ทดสอบฝีมือกันก่อน ซึ่งไม่ว่าผู้เข้าแข่งขันจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเพียงใด ขอเพียงมีคอมพิวเตอร์บวกกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ก็สามารถเข้าร่วมแข่งขันการสะกดคำภาษาอังกฤษกับ NJ ได้แล้ว และจากตัวเลขผู้เข้าร่วมแข่งขันรอบคัดเลือกออนไลน์ ที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากผู้สมัครในปีที่แล้ว ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่า NJ Spelling Bee ในยุคดิจิตัลนี้จะเป็นสื่อให้เราสามารถเข้าถึงผู้สนใจทั่วประเทศอย่างแท้ จริง

หลังจากที่การแข่งขันรอบคัดเลือกออนไลน์ได้ผ่านไปแล้ว ในตอนนี้เราได้ตัวแทน 500 คนจากแต่ละภาค เพื่อเดินทางมาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค เพื่อเฟ้นหาคนเก่ง 25 คนเพื่อไปแข่งในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศต่อไป โดยตำแหน่ง Champ of the Year ประจำปีนี้จะได้รับทุนการศึกษาไปเรียนภาษาอังกฤษ ณ Eltham College ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และอาจารย์ที่ปรึกษาของแชมป์จะได้ไปดูงานการสอนภาษาอังกฤษที่สถาบันเดียวกัน เป็นเวลาถึง 2 สัปดาห์

การแข่งขันออนไลน์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เวบไซต์ www.njspellingbee.net ที่เพิ่งเปิดขึ้นในปีนี้ จะเป็นศูนย์รวมข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของการแข่งขันในปีนี้ ทั้งอาจารย์และนักเรียนจากทุกภาคสามารถที่จะใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อแลก เปลี่ยนความคิดเห็น เคล็ดลับในการฝึกซ้อมและแข่งขัน รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของโรงเรียนของตัวเองให้เพื่อนๆ ทั่วประเทศได้รับรู้กัน แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ การเปิดตัว NJ Spelling Bee Game and Tutor ซึ่งนอกจากจะเป็นเกมสะกดภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ใครได้ลองเล่นแล้ว รับรองได้ว่าต้องติดใจ จนเลิกเล่นกันไม่ได้เลยทีเดียว เกมนี้ยังได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการฝึกฝนและเตรียมตัวสำหรับผู้เข้าแข่ง ขันอีกด้วย

รีบลงทะเบียนกับ www.njspellingbee.net  วันนี้ แล้วก็เริ่มฝึกซ้อมเตรียมตัวแข่งกันได้เลย

http://www.scribd.com/doc/134859628/Nj-Spelling-Bee-2013

งานศิลปะของนักเรียน วาดปก notebook

ปกสมุด 2556

ปกสมุด 2556

 

8 เม.ย.56 วันนี้นักเรียน ม.2 และ ม.3 ของโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยไปรับเงินอุดหนุน 660 บาทจากรัฐบาล และซื้อสมุดของโรงเรียน 210 บาท จากนั้นก็ไปจ่ายค่าเล่าเรียน 3,700 บาท โดยสมุดที่ได้รับมาแต่ละปีก็จะมีปกที่สวยงาม เป็นงานศิลปะจากผลงานการวาดของนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละปี งานศิลปะมีความหลากหลายอาจใช้มือวาด ใช้ภาพถ่าย หรือใช้คอมพิวเตอร์ก็ได้ เป็นความหลากหลายที่งดงาม

 

ปกสมุด 2556

ปกสมุด 2556

ปกสมุด 2556

ปกสมุด 2556

ปกสมุด 2556

ปกสมุด 2556

ปกหลังสมุด 2556

ปกหลังสมุด 2556

ศิลปินนักเรียน 2556
– ยุรนันท์ แมะบ้าน
– ธิติพัฒน์ สอนแปง
– อารยา พงษ์เลาหพันธุ์
– ทิพย์อักษร สุวรรณลักษณ์

ศิลปินนักเรียน 2555
– วัชรชัย เวชโช
– ยุรนันท์ แมะบ้าน
– มัณฑนา สีตลานุชิต
– พชญ์สินี สุวรรณธวัช
– ทิพย์อักษร สุวรรณลักษณ์

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

 

 

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกสมุด 2555

ปกหลังสมุด 2555

ปกหลังสมุด 2555

ในส่วนของธุรกรรมทางการเงิน เด็ก ๆ ไปรับเงินอุดหนุนจากคุณครู และเข้าแถวซื้อสมุดจากผู้ประกอบธุรกิจโดยระบุลำดับที่ในห้องเรียน ส่วนผู้ปกครองก็จ่ายค่าเล่าเรียนโดยมีธนาคารมาตั้งโต๊ะ โดยผู้ปกครองกรอกชื่อ สกุล ห้อง ชั้น และเลขประชำตัว 5 หลัก ลงในใบนำฝากของธนาคาร ชำระเงิน แล้วรับหลักฐานเป็นสำเนาใบนำฝากของธนาคาร

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151523104362272&set=a.10150945395632272.435218.350024507271

 

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียน

student indicator

student indicator

ไปรับแบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.6) ของโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ที่แจกให้กับเด็กนักเรียนทุกคน  แล้วพบหัวข้อ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียน เมื่อค้นจากอินเทอร์เน็ต ก็พบว่าเป็นคุณสมบัติที่หลายโรงเรียนมีเหมือนกัน มี 8 คุณสมบัติหลักและในนั้นมีตัวชี้วัด 18 ตัว (บางโรงเรียนมีมากกว่า 8 คุณลักษณะ และมากกว่า 18 ตัวบ่งชี้ก็ได้)  โดยเกณฑ์ที่ใช้กับทั้ง 18 ตัว ใช้เกณฑ์เดียวกัน มีทั้งหมด 4 ระดับคือ 0 – 4 แต่มีคำอธิบายเกณฑ์ในแต่ละตัวบ่งชี้แตกต่างกันไป สำหรับเกณฑ์ดีเยี่ยมได้ 3 คะแนน เกณฑ์ดีได้ 2 คะแนน เกณฑ์ผ่านได้ 1 คะแนน เกณฑ์ไม่ผ่านได้ 0 คะแนน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียน มีดังนี้

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ตัวชี้วัดที่ 1  เป็นพลเมืองดีของชาติ
ตัวชี้วัดที่ 2  ธำรงไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย
ตัวชี้วัดที่ 3  ศรัทธา ยึดมั่น และปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา
ตัวชี้วัดที่ 4  เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
2. ซื่อสัตย์สุจริต
ตัวชี้วัดที่ 1  ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ
ตัวชี้วัดที่ 2  ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อผู้อื่นทั้งทางกาย วาจา ใจ
3. มีวินัย
ตัวชี้วัดที่ 1  ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม
4. ใฝ่เรียนรู้
ตัวชี้วัดที่ 1  ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
ตัวชี้วัดที่ 2  แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ  ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้
และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
5. อยู่อย่างพอเพียง
ตัวชี้วัดที่ 1  ดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม
ตัวชี้วัดที่ 2  มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
6. มุ่งมั่นในการทำงาน
ตัวชี้วัดที่ 1  ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่การงาน
ตัวชี้วัดที่ 2  ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย
7. รักความเป็นไทย
ตัวชี้วัดที่ 1  ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี  ศิลปะ  วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญูกตเวที
ตัวชี้วัดที่ 2  เห็นคุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ตัวชี้วัดที่ 3  อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาไทย
8. มีจิตสาธารณะ
ตัวชี้วัดที่ 1  ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจและพึงพอใจ โดยไม่หวังผลตอบแทน
ตัวชี้วัดที่ 2  เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน  ชุมชน  และสังคม

ในระดับอุดมศึกษาเรียกว่า มาตรฐานการเรียนรู้กลางมี 5 ด้าน ตาม TQF

1. คุณธรรม จริยธรรม (Morality and Ethics)
2. ความรู้ (Knowledge development)
3. ทักษะทางปัญญา (Intellectual development)
4. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (Interpersonal relationship and responsibility)
5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Mathematical analytical thinking, communication skills, and information technology skills)


http://www.stfx.ac.th/home/index.php?option=com_content&view=article&id=389&Itemid=1374

http://www.assumption.ac.th/index1.php?detail=contents/aboutac/acstdfeature.php

สอบครูผช. รับ 2000 คาดว่าร่วมขบวนทุจริตเกือบ 1,000 คะแนนเต็ม 480 คน

สอบครูผช. รับ 2000 คาดว่าร่วมขบวนทุจริตเกือบ 1,000 คะแนนเต็ม 480 คน

สอบครูผช. รับ 2000 คาดว่าร่วมขบวนทุจริตเกือบ 1,000 คะแนนเต็ม 480 คน

เสริมศักดิ์ แฉพิรุธสอบ ครูผช.480คนได้เต็ม
ลั่นล้างโกงยกแผ่นดินศธ.ชี้ส่วนกลางต้นทางทุจริต

รมว.ศธ.ยันไม่มีมวยล้มโกงสอบครูผู้ช่วย ‘เสริมศักดิ์’รับขบวนการทุจริตมาจากส่วนกลาง
กรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รอง นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) นัดพิเศษในวันที่ 13 มีนาคม เพื่อพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกผลการสอบสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว 12 ครั้งที่ผ่านมา หลังพบมีขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วย โดยจะพิจารณาจากสำนวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งให้ ขณะที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. คาดว่าจะมีพนักงานราชการเข้าร่วมกระบวนการทุจริตเกือบ 1,000 คน โดยสั่งการให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2556 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย พงศ์เทพกล่าวว่า การทุจริตสอบครูผู้ช่วยมีความชัดเจนในหลายๆ เรื่อง อย่างกรณีที่มีคนสอบแทนกัน หรือมีชื่อไปปรากฏในสถานที่สอบถึง 2 แห่ง ถือเป็นการทุจริตอย่างแน่นอน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะสอบในเชิงลึกว่ามีขบวนการเชื่อมโยงกันอย่างไร กำลังรอฟังว่าจะมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกันอย่างไร ยืนยันว่าจะไม่เป็นมวยล้ม จะไม่เห็นแก่หน้าใคร
นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ยอมรับว่าน่าจะมีการทุจริตมาจากส่วนกลาง เพราะเป็นไปได้อย่างไรที่การสอบจะมีผู้ได้คะแนนเต็มเท่ากันถึง 480 คน ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน เมื่อได้ข้อมูลมาระดับหนึ่งก็ส่งข้อมูลให้ดีเอสไอสอบสวนต่อ เพราะข้อมูลบางอย่างมีการเชื่อมโยง ทำให้ระดับกระทรวงไม่สามารถเข้าไปหาข้อเท็จจริงได้ เชื่อกระทรวงไม่สามารถเข้าไปหาข้อเท็จจริงได้ เชื่อว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้จะได้ข้อเท็จจริงมากพอ สมควร
เมื่อถามว่า ผู้ที่เข้าสอบได้รับการบรรจุไปแล้วจะดำเนินการอย่างไร นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ถ้าการบรรจุมาจากการสอบที่ไม่เป็นธรรมก็ต้องยกเลิก ส่วนที่จะมีแผนการสอบเพื่อรับบรรจุอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน ได้สั่งการให้ชะลอการสอบและรอผลการสอบสวนก่อน เพื่อให้รู้กระบวนการทุจริต จะได้แก้ไขได้
เมื่อถามว่า หากผลสอบสวนออกมาพบว่ามีผู้บริหารกระทรวงเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการเด็ดขาดอย่างไร นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวข้องกับใครก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่ามีหลายส่วน มีข้อมูลชี้ชัดว่ามีการทำเป็นขบวนการ คนที่บงการเป็นขบวนการใหญ่ จะปล่อยไว้ไม่ได้
ผมได้รับรายงานว่าขบวนการทุจริตแบบนี้ ทำกันมานาน ไม่มีใครกล้าไปแตะต้อง แต่ยืนยันว่าผมจะเข้าไปจัดการอย่างจริงจังบนความถูกต้องชอบธรรม ไม่มีการไปกลั่นแกล้งใคร สิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือการทุจริตต้องแก้ไขปรับปรุง ยอมรับว่าการทุจริตในกระทรวงศึกษาฯมีเยอะมาก ผมจะทำให้แผ่นดินกระทรวงศึกษาฯสูงขึ้น” นายเสริมศักดิ์กล่าว
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมบุคลากรและเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปากคำและให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ในวันที่ 6 มีนาคม นอกจากนี้ ยังเตรียมคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดีเอสไอใน 4 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการส่งมอบข้อสอบจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งในเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่ง สพฐ.จะพยายามทำข้อมูลให้ชัดเจนที่สุด
นายชินภัทรกล่าวว่า ส่วนที่นายเสริมศักดิ์คาดว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการทุจริตเกือบ 1,000 คน จากอัตราที่บรรจุประมาณ 2,000 คนนั้น สพฐ.มีข้อมูลในส่วนนี้แล้ว และเตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.เร็วๆ นี้ โดยพิจารณาจากการแจกแจงความถี่ของคะแนน ผู้เข้าสอบ ซึ่งปกติแล้วการสอบแต่ละครั้งจะมีการ กระจายของคะแนนเป็นค่าปกติ (Normal Curve) ไม่ว่าจะเป็นการสอบของนักเรียนในการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการสอบครูผู้ช่วย แต่การสอบคัดเลือกในบางครั้งที่ข้อสอบยาก จะมีการเบ้ของการกระจายตัวคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แต่การสอบครูผู้ช่วยครั้งที่ผ่านมา มีค่าคะแนนที่แสดงการกระจายตัวในระดับที่สูงกว่าปกติ และบ่งบอกถึงความผิดปกติของคะแนน โดยคะแนนที่ผิดปกติมีไม่ถึงพันคน ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีคะแนนสูงกว่าปกติ จึงสันนิษฐานได้ว่าเข้าข่ายที่จะทุจริต ซึ่ง สพฐ.มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะยกเลิกผลการสอบครั้งนี้หรือไม่ ต้องนำข้อมูลของดีเอสไอ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สพฐ. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ก.ค.ศ.และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.แต่งตั้ง มาพิจารณาประกอบก่อนสรุปผล
“ผมสั่งการให้ข้าราชการ สพฐ.ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมและอยู่สำนักงาน เพื่อรอให้ข้อมูลกับดีเอสไอ เพราะไม่รู้ว่าดีเอสไอจะสอบถามใครบ้าง ส่วนผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุด สพฐ.ได้รายงานผลเป็นระยะๆ และเมื่อมีข้อมูลใหม่ก็จะลงไปสอบเพิ่ม อย่างกรณีมีข้อมูลที่มาจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดอื่นๆ และข้อมูลของ ดีเอสไอว่ามีผู้แอบนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดอื่นๆ และข้อมูลของ ดีเอสไอว่ามีผู้แอบนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องสอบ และการปรับผังที่นั่งของเขตพื้นที่ฯที่ สพฐ.กำหนดให้จัดตามเลขที่สอบ ต้องไปดูว่าเขตพื้นที่ฯจัดที่นั่งสอบตามที่ สพฐ.กำหนดหรือไม่ ซึ่งมีข้อมูลว่ามีการไปปรับผังที่นั่งใหม่” นายชินภัทรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับค่าคะแนนที่มีการ กระจายตัวสูงผิดปกติมีอยู่ประมาณ 2% ของผู้เข้าสอบทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200-300 คน
พนักงานราชการคนหนึ่งที่สมัครสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) กล่าวว่า การสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยที่ผ่านมา มีพนักงานราชการส่วนหนึ่งที่เป็นกลุ่มครูอัตราจ้าง ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ และครูโครงการ SP2 ที่อายุการทำงานไม่ถึง 3 ปี ตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่สามารถสมัครสอบครูผู้ช่วยได้ แต่ติดสินบนให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ตัวเองปฏิบัติงานอยู่ ช่วยทำเอกสารยืนยันการทำงานว่าครบ 3 ปีตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยผู้สมัครกลุ่มนี้ได้จ่ายเงินให้กับขบวนการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยในครั้งนี้ ดังนั้น อยากให้ ศธ.และดีเอสไอช่วยตรวจสอบประเด็นนี้ด้วย เพราะไม่อยากให้กลุ่มคนที่ทุจริตตั้งแต่การโกงอายุการทำงาน และจ่ายเงินให้กับขบวนการทุจริตได้เข้าไปเป็นข้าราชการครู
การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร กรรมการรับสมัครแต่ละเขตพื้นที่ฯจะยึดตามเอกสารที่นำมายื่น จึงตรวจสอบยากเมื่อมีผู้สมัครเอาเอกสารเท็จมาสมัครสอบ” พนักงานราชการคนเดิมกล่าว
นายประวิทย์ บึงไสย์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท) กล่าวว่า ส.ค.ท.ติดตามข่าวการทุจริตสอบครูผู้ช่วยมาตลอด และเห็นว่าต้องตรวจสอบให้ถึงที่สุด โดย ส.ค.ท.ขอสนับสนุน และให้กำลังใจรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพราะหากปล่อยให้คนที่ทุจริตเข้าไปเป็นครู จะเป็นผลเสียต่อการศึกษาแน่นอน อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้คุรุสภาในฐานะที่กำกับดูแล และออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ควรมีมาตรการในเรื่องนี้บ้าง เช่น เพิกถอนใบอนุญาตผู้ที่ทุจริต เป็นต้น

มติชน ฉบับวันที่ 7 มี.ค. 2556 (กรอบบ่าย)
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=31935&Key=hotnews