Author Archives: admin

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียน

student indicator

student indicator

ไปรับแบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.6) ของโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ที่แจกให้กับเด็กนักเรียนทุกคน  แล้วพบหัวข้อ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียน เมื่อค้นจากอินเทอร์เน็ต ก็พบว่าเป็นคุณสมบัติที่หลายโรงเรียนมีเหมือนกัน มี 8 คุณสมบัติหลักและในนั้นมีตัวชี้วัด 18 ตัว (บางโรงเรียนมีมากกว่า 8 คุณลักษณะ และมากกว่า 18 ตัวบ่งชี้ก็ได้)  โดยเกณฑ์ที่ใช้กับทั้ง 18 ตัว ใช้เกณฑ์เดียวกัน มีทั้งหมด 4 ระดับคือ 0 – 4 แต่มีคำอธิบายเกณฑ์ในแต่ละตัวบ่งชี้แตกต่างกันไป สำหรับเกณฑ์ดีเยี่ยมได้ 3 คะแนน เกณฑ์ดีได้ 2 คะแนน เกณฑ์ผ่านได้ 1 คะแนน เกณฑ์ไม่ผ่านได้ 0 คะแนน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียน มีดังนี้

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ตัวชี้วัดที่ 1  เป็นพลเมืองดีของชาติ
ตัวชี้วัดที่ 2  ธำรงไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย
ตัวชี้วัดที่ 3  ศรัทธา ยึดมั่น และปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา
ตัวชี้วัดที่ 4  เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
2. ซื่อสัตย์สุจริต
ตัวชี้วัดที่ 1  ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ
ตัวชี้วัดที่ 2  ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อผู้อื่นทั้งทางกาย วาจา ใจ
3. มีวินัย
ตัวชี้วัดที่ 1  ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม
4. ใฝ่เรียนรู้
ตัวชี้วัดที่ 1  ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
ตัวชี้วัดที่ 2  แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ  ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้
และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
5. อยู่อย่างพอเพียง
ตัวชี้วัดที่ 1  ดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม
ตัวชี้วัดที่ 2  มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
6. มุ่งมั่นในการทำงาน
ตัวชี้วัดที่ 1  ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่การงาน
ตัวชี้วัดที่ 2  ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย
7. รักความเป็นไทย
ตัวชี้วัดที่ 1  ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี  ศิลปะ  วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญูกตเวที
ตัวชี้วัดที่ 2  เห็นคุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ตัวชี้วัดที่ 3  อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาไทย
8. มีจิตสาธารณะ
ตัวชี้วัดที่ 1  ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจและพึงพอใจ โดยไม่หวังผลตอบแทน
ตัวชี้วัดที่ 2  เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน  ชุมชน  และสังคม

ในระดับอุดมศึกษาเรียกว่า มาตรฐานการเรียนรู้กลางมี 5 ด้าน ตาม TQF

1. คุณธรรม จริยธรรม (Morality and Ethics)
2. ความรู้ (Knowledge development)
3. ทักษะทางปัญญา (Intellectual development)
4. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (Interpersonal relationship and responsibility)
5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Mathematical analytical thinking, communication skills, and information technology skills)


http://www.stfx.ac.th/home/index.php?option=com_content&view=article&id=389&Itemid=1374

http://www.assumption.ac.th/index1.php?detail=contents/aboutac/acstdfeature.php

ประชาสัมพันธ์การประชุมสภาเทศบาล

ประชาสัมพันธ์การประชุมสภาเทศบาล

ประชาสัมพันธ์การประชุมสภาเทศบาล

ตามประกาศว่า ขอเชิญเข้าร่วมรับฟัง
การประชุมสภาเทศบาลนครลำปาง
วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2556 เวลา 10.00 น.
ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลนครลำปาง

ถ้าอ่านรายละเอียดในประกาศก็จะทราบว่า ชาวลำปางที่สนใจการเมืองท้องถิ่น
สามารถขอเข้าร่วมรับฟังการประชุมสภาเทศบาลนครลำปางได้
ซึ่งน่าจะเป็นกับทุกเทศบาล หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง
ท่านใดที่สนใจเข้าฟังก็ติดต่อไปได้ครับ
การเมืองไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง เป็นเรื่องของทุกคน

ร้านขวัญเรือน

แผนที่ไปร้านขวัญเรือน ตรงจุดแดง ๆ ครับ

แผนที่ไปร้านขวัญเรือน
ตรงจุดแดง ๆ ครับ

ร้านหมูจุ่มแถวตำบลบ่อแฮ้ว วิธีเดินทางคงต้องดูจาก google map เพราะบอกไม่ถูกเหมือนกัน ชื่อร้านขวัญเรือน โทรจองได้ที่ 0815954762

ครอบครัวที่ร้านขวัญเรือน

ครอบครัวที่ร้านขวัญเรือน

ทีแรกก็ว่าจะไปทางบุฟเฟต์หัว 329 บาท เป็นสุกี้ชื่อคล้าย ๆ ซูชิสุกิอะไรทำนองนี้ แต่ในทีมตกลงกันว่า แวะร้านนี้ก่อนดีไหม ก็สั่งกันไปหลายอย่าง โดยเฉพาะเซตหมูจุ่มได้มาถาดใหญ่เลยครับ

วิวหลังร้านขวัญเรือน

วิวหลังร้านขวัญเรือน

สั่งอาหารเพิ่มเติมจากชุดหมูจุ่มก็มีข้าวสวย 6 จาน ลาบคั่ว ส้าคั่ว กับยำตับหวาน แล้วก็ปลาหมึกสดอีกจาน ทานกันจนอิ่ม แย่งกันลวก เพราะรสจัดจ้าน น้ำจิ้มก็ได้มาโต๊ะละกระป๋อง แบบเต็มที่กันไปเลย เช็คบิลเขาบอกว่า 358 บาท ในใจก็สงสัยว่าหัวละ หรือทั้งหมด เวลาไปทานเบนโตะ ก็คนละ 158 บาท ถ้าเป็นชาบูก็หัวละ 329 นี่ไปกัน 6 คน จ่าย 358 บาท ผมกวักไป 360 แล้วก็กลับบ้านที่เหลือให้เป็นทิป

รถไฟวิ่งผ่านหน้าร้านขวัญเรือนติดลานจอดรถของร้าน

รถไฟวิ่งผ่านหน้าร้านขวัญเรือนติดลานจอดรถของร้าน

ระหว่างทานก็มีรถไฟวิ่งผ่าน ได้ข่าวว่าอีกหน่อยจะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าสองเลนความเร็วสูง แถวนี้ก็จะพัฒนาเป็นถนนวงแหวน เห็นว่าไม่ใกล้ไม่ไกลนี่หละ

ลานจอดรถ มีป้ายบอกเลอร์รับจองโต๊ะ 0815954762

ลานจอดรถ
มีป้ายบอกเลอร์รับจองโต๊ะ
0815954762

 

บรรยากาศที่ร้านขวัญเรือน

บรรยากาศที่ร้านขวัญเรือน

 

สอบครูผช. รับ 2000 คาดว่าร่วมขบวนทุจริตเกือบ 1,000 คะแนนเต็ม 480 คน

สอบครูผช. รับ 2000 คาดว่าร่วมขบวนทุจริตเกือบ 1,000 คะแนนเต็ม 480 คน

สอบครูผช. รับ 2000 คาดว่าร่วมขบวนทุจริตเกือบ 1,000 คะแนนเต็ม 480 คน

เสริมศักดิ์ แฉพิรุธสอบ ครูผช.480คนได้เต็ม
ลั่นล้างโกงยกแผ่นดินศธ.ชี้ส่วนกลางต้นทางทุจริต

รมว.ศธ.ยันไม่มีมวยล้มโกงสอบครูผู้ช่วย ‘เสริมศักดิ์’รับขบวนการทุจริตมาจากส่วนกลาง
กรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รอง นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) นัดพิเศษในวันที่ 13 มีนาคม เพื่อพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกผลการสอบสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว 12 ครั้งที่ผ่านมา หลังพบมีขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วย โดยจะพิจารณาจากสำนวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งให้ ขณะที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. คาดว่าจะมีพนักงานราชการเข้าร่วมกระบวนการทุจริตเกือบ 1,000 คน โดยสั่งการให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2556 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย พงศ์เทพกล่าวว่า การทุจริตสอบครูผู้ช่วยมีความชัดเจนในหลายๆ เรื่อง อย่างกรณีที่มีคนสอบแทนกัน หรือมีชื่อไปปรากฏในสถานที่สอบถึง 2 แห่ง ถือเป็นการทุจริตอย่างแน่นอน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะสอบในเชิงลึกว่ามีขบวนการเชื่อมโยงกันอย่างไร กำลังรอฟังว่าจะมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกันอย่างไร ยืนยันว่าจะไม่เป็นมวยล้ม จะไม่เห็นแก่หน้าใคร
นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ยอมรับว่าน่าจะมีการทุจริตมาจากส่วนกลาง เพราะเป็นไปได้อย่างไรที่การสอบจะมีผู้ได้คะแนนเต็มเท่ากันถึง 480 คน ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน เมื่อได้ข้อมูลมาระดับหนึ่งก็ส่งข้อมูลให้ดีเอสไอสอบสวนต่อ เพราะข้อมูลบางอย่างมีการเชื่อมโยง ทำให้ระดับกระทรวงไม่สามารถเข้าไปหาข้อเท็จจริงได้ เชื่อกระทรวงไม่สามารถเข้าไปหาข้อเท็จจริงได้ เชื่อว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้จะได้ข้อเท็จจริงมากพอ สมควร
เมื่อถามว่า ผู้ที่เข้าสอบได้รับการบรรจุไปแล้วจะดำเนินการอย่างไร นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ถ้าการบรรจุมาจากการสอบที่ไม่เป็นธรรมก็ต้องยกเลิก ส่วนที่จะมีแผนการสอบเพื่อรับบรรจุอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน ได้สั่งการให้ชะลอการสอบและรอผลการสอบสวนก่อน เพื่อให้รู้กระบวนการทุจริต จะได้แก้ไขได้
เมื่อถามว่า หากผลสอบสวนออกมาพบว่ามีผู้บริหารกระทรวงเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการเด็ดขาดอย่างไร นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวข้องกับใครก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่ามีหลายส่วน มีข้อมูลชี้ชัดว่ามีการทำเป็นขบวนการ คนที่บงการเป็นขบวนการใหญ่ จะปล่อยไว้ไม่ได้
ผมได้รับรายงานว่าขบวนการทุจริตแบบนี้ ทำกันมานาน ไม่มีใครกล้าไปแตะต้อง แต่ยืนยันว่าผมจะเข้าไปจัดการอย่างจริงจังบนความถูกต้องชอบธรรม ไม่มีการไปกลั่นแกล้งใคร สิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือการทุจริตต้องแก้ไขปรับปรุง ยอมรับว่าการทุจริตในกระทรวงศึกษาฯมีเยอะมาก ผมจะทำให้แผ่นดินกระทรวงศึกษาฯสูงขึ้น” นายเสริมศักดิ์กล่าว
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมบุคลากรและเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปากคำและให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ในวันที่ 6 มีนาคม นอกจากนี้ ยังเตรียมคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดีเอสไอใน 4 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการส่งมอบข้อสอบจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งในเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่ง สพฐ.จะพยายามทำข้อมูลให้ชัดเจนที่สุด
นายชินภัทรกล่าวว่า ส่วนที่นายเสริมศักดิ์คาดว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการทุจริตเกือบ 1,000 คน จากอัตราที่บรรจุประมาณ 2,000 คนนั้น สพฐ.มีข้อมูลในส่วนนี้แล้ว และเตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.เร็วๆ นี้ โดยพิจารณาจากการแจกแจงความถี่ของคะแนน ผู้เข้าสอบ ซึ่งปกติแล้วการสอบแต่ละครั้งจะมีการ กระจายของคะแนนเป็นค่าปกติ (Normal Curve) ไม่ว่าจะเป็นการสอบของนักเรียนในการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการสอบครูผู้ช่วย แต่การสอบคัดเลือกในบางครั้งที่ข้อสอบยาก จะมีการเบ้ของการกระจายตัวคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แต่การสอบครูผู้ช่วยครั้งที่ผ่านมา มีค่าคะแนนที่แสดงการกระจายตัวในระดับที่สูงกว่าปกติ และบ่งบอกถึงความผิดปกติของคะแนน โดยคะแนนที่ผิดปกติมีไม่ถึงพันคน ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีคะแนนสูงกว่าปกติ จึงสันนิษฐานได้ว่าเข้าข่ายที่จะทุจริต ซึ่ง สพฐ.มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะยกเลิกผลการสอบครั้งนี้หรือไม่ ต้องนำข้อมูลของดีเอสไอ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สพฐ. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ก.ค.ศ.และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.แต่งตั้ง มาพิจารณาประกอบก่อนสรุปผล
“ผมสั่งการให้ข้าราชการ สพฐ.ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมและอยู่สำนักงาน เพื่อรอให้ข้อมูลกับดีเอสไอ เพราะไม่รู้ว่าดีเอสไอจะสอบถามใครบ้าง ส่วนผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุด สพฐ.ได้รายงานผลเป็นระยะๆ และเมื่อมีข้อมูลใหม่ก็จะลงไปสอบเพิ่ม อย่างกรณีมีข้อมูลที่มาจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดอื่นๆ และข้อมูลของ ดีเอสไอว่ามีผู้แอบนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดอื่นๆ และข้อมูลของ ดีเอสไอว่ามีผู้แอบนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องสอบ และการปรับผังที่นั่งของเขตพื้นที่ฯที่ สพฐ.กำหนดให้จัดตามเลขที่สอบ ต้องไปดูว่าเขตพื้นที่ฯจัดที่นั่งสอบตามที่ สพฐ.กำหนดหรือไม่ ซึ่งมีข้อมูลว่ามีการไปปรับผังที่นั่งใหม่” นายชินภัทรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับค่าคะแนนที่มีการ กระจายตัวสูงผิดปกติมีอยู่ประมาณ 2% ของผู้เข้าสอบทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200-300 คน
พนักงานราชการคนหนึ่งที่สมัครสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) กล่าวว่า การสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยที่ผ่านมา มีพนักงานราชการส่วนหนึ่งที่เป็นกลุ่มครูอัตราจ้าง ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ และครูโครงการ SP2 ที่อายุการทำงานไม่ถึง 3 ปี ตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่สามารถสมัครสอบครูผู้ช่วยได้ แต่ติดสินบนให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ตัวเองปฏิบัติงานอยู่ ช่วยทำเอกสารยืนยันการทำงานว่าครบ 3 ปีตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยผู้สมัครกลุ่มนี้ได้จ่ายเงินให้กับขบวนการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยในครั้งนี้ ดังนั้น อยากให้ ศธ.และดีเอสไอช่วยตรวจสอบประเด็นนี้ด้วย เพราะไม่อยากให้กลุ่มคนที่ทุจริตตั้งแต่การโกงอายุการทำงาน และจ่ายเงินให้กับขบวนการทุจริตได้เข้าไปเป็นข้าราชการครู
การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร กรรมการรับสมัครแต่ละเขตพื้นที่ฯจะยึดตามเอกสารที่นำมายื่น จึงตรวจสอบยากเมื่อมีผู้สมัครเอาเอกสารเท็จมาสมัครสอบ” พนักงานราชการคนเดิมกล่าว
นายประวิทย์ บึงไสย์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท) กล่าวว่า ส.ค.ท.ติดตามข่าวการทุจริตสอบครูผู้ช่วยมาตลอด และเห็นว่าต้องตรวจสอบให้ถึงที่สุด โดย ส.ค.ท.ขอสนับสนุน และให้กำลังใจรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพราะหากปล่อยให้คนที่ทุจริตเข้าไปเป็นครู จะเป็นผลเสียต่อการศึกษาแน่นอน อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้คุรุสภาในฐานะที่กำกับดูแล และออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ควรมีมาตรการในเรื่องนี้บ้าง เช่น เพิกถอนใบอนุญาตผู้ที่ทุจริต เป็นต้น

มติชน ฉบับวันที่ 7 มี.ค. 2556 (กรอบบ่าย)
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=31935&Key=hotnews

สมศ.ชี้ 8 จว.ขาดยุทธศาสตร์การศึกษา ตามโครงการแอเรียเบสในพื้นที่ 8 จังหวัด

สมศ.ชี้ 8 จว.ขาดยุทธศาสตร์การศึกษา

สมศ.ชี้ 8 จว.ขาดยุทธศาสตร์การศึกษา

สมศ.ชี้ 8 จังหวัดขาดยุทธศาสตร์การศึกษา
ตามโครงการแอเรียเบสในพื้นที่ 8 จังหวัด
ข่าว . คมชัดลึก

สมศ.สรุปผลแอเรียเบส 8 จังหวัด ชี้ปัญหาจังหวัดขาดยุทธศาสตร์การศึกษา เตรียมชงจังหวัด-เชตพื้นที่เชื่อมโยงยุมธศษสตร์การบริหารงานระดับจังหวัดให้เข้ากันกับยุทธศษสตร์ด้านการศึกษาให้มากขึ้น

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2556 ที่อาคารพญาไท พลาซ่า สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผอ.สมศ. เปิดเผยว่า ได้จัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการประเมินคุณภาพภายนอกเชิงพื้นที่ หรือ แอเรียเบส เพื่อสรุปผลการประเมินคุณภาพภายนอกในพื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย ตราด อำนาจเจริญ ชุมพร พังงา สมุทรสงคราม สิงห์บุรี ชัยนาท และแพร่ รายงานต่อหน่วยงานต้นสังกัดสถานศึกษา โดยแบ่งผลการประเมินสถานศึกษารวม 8 จังหวัด ดังนี้

ผลประเมินคุณภาพภายนอกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 1,632 แห่ง ผ่านการรับรองมาตรฐาน 1,069 แห่ง ไม่ผ่านการรับรอง 563 แห่ง

ผลการประเมินคุณภาพนอกด้านการอาชีวศึกษา จำนวน 39 แห่ง ผ่านการรับรองมาตรฐาน 26 แห่ง ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน 13 แห่ง
ส่วนผลการประเมินคุณภาพภายนอกศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จำนวน 55 แห่ง ผ่านการรับรองมาตรฐาน 54 แห่ง และไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน 1 แห่ง ส่วนผลการประเมินคุณภาพภายนอกระดับอุดมศึกษาสำหรับสถาบันอุดมศึกษาที่เปิดสอนใน 8 จังหวัด พบว่าผ่านการรับรองทุกแห่งผอ.สมศ.กล่าว
จากการสรุปภาพรวมการดำเนินโครงการแอเรียเบสในพื้นที่ 8 จังหวัด สมศ.มีข้อเสนอแนะไปยังต้นสังกัดสถานศึกษาให้เร่งวิเคราะห์หาทางแก้ปัญหาสถานศึกษาที่ไม่ได้รับการรับรอง รวมถึงเสนอไปยังจังหวัดและเขตพื้นที่การศึกษาให้มีการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การบริหารงานระดับจังหวัดให้เข้ากันกับยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาให้มากขึ้น เพราะจากการลงพื้นที่พบว่าหลายจังหวัดไม่มียุทธศาสตร์การศึกษาในระดับจังหวัด ยกตัวอย่าง การจัดการด้านอาชีวศึกษาที่ไม่สอดรับการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เช่น จังหวัดมีจุดเน้นด้านการเกษตรแต่ในจังหวัดไม่มีวิทยาลัยเกษตร

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=31939&Key=hotnews
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

นักศึกษาลำปาง ชวนแลกเปลี่ยนผ่าน story telling

นายณภัทร เทพจันตา

นายณภัทร เทพจันตา

จากการสัมมนาผู้นำนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเนชั่น
วิทยากรโดย อ.ธวัชชัย แสนชมภู และอ.วีระพันธ์ แก้วรัตน์
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2556
แล้ว นายณภัทร เทพจันตา
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
ชั้นปีที่ 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยเนชั่น จังหวัดลำปาง

ได้เข้าชวนเพื่อนในกลุ่มของคณะวิชา
แลกเปลี่ยนผ่านกระบวนการจัดการความรู้ (KM)
ในรูปแบบ Story Telling

มีประเด็นน่าสนใจดังนี้
l2: seminar, refer. to 2 lecturer
l3: past, present, future
l4: good relationship
l5: best practice
l6: awareness
l8: care & love
l10: plan
l12: indicator, identity, uniqueness
l13: request for proposal

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=608693312478137&set=a.506870255993777.127524.506818005999002

งานรำลึกวันประวัติศาสตร์ รถไฟ รถม้าลำปาง ครั้งที่ 14

รำลึกวันประวัติศาสตร์ รถไฟ รถม้าลำปาง ครั้งที่ 14

รำลึกวันประวัติศาสตร์ รถไฟ รถม้าลำปาง ครั้งที่ 14

จังหวัดลำปาง ขอเชิญร่วมงาน
รำลึกวันประวัติศาสตร์ รถไฟ รถม้า ลำปาง ครั้งที่ 14
ระหว่าง 1 – 5 เมษายน 2556 ณ บริเวณหน้าสถานีรถไฟนครลำปาง
สอบถามเพิ่มเติมที่ สมาคมรถม้าจังหวัดลำปาง 054-318809

horse carriage

horse carriage

ภาคเช้า เวลา 9.00น. เป็นต้นไป
ชมนิทรรศการรถไฟ รถม้า รถไฟเล็ก จากชมรมรถไฟดอทคอม
http://www.rotfaithai.com/
เลือกซื้อสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน

ภาคค่ำ เวลา 20.00น. และ 21.00น.
ชมนิทรรศการรถไฟ รถม้า รถไฟเล็ก
ชมสะพานดำ สะพานประวัติศาสตร์ยุคสงครามโลก ครั้งที่ 2

วัตถุประสงค์การจัดงาน
– เพื่อรำลึกถึงความสำคัญของกิจกรรมรถไฟและรถม้า
ที่เข้ามาสู่จังหวัดลำปางเป็นครั้งแรกในอดีต และได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง
ด้านเศรษฐกิจและสังคมแก่ชาวนครลำปางจนถึงปัจจุบัน
– เพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้างอัตลักษณ์ด้านศิลปวัฒนธรรม
วิถีของชาวลำปางให้ดำรงคงอยู่และเผยแพร่สู่สาธารณชน
– เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง

เล่าขานตำนานบุญวาทย์

bunyawat book

bunyawat book

มีโอกาสได้รับหนังสือเล่มหนึ่งจาก พระครูสังวรสุตกิจ ซึ่งเป็นหนังสือเผยแพร่ อ่านดูพบว่า หนังสือเล่าถึงการเชื่อมโยงของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิตย์ โรงเรียนบุญวาทย์ ถนนบุญวาทย์ วัดบุญวาทย์วิหาร หน่วยงานในวัดบุญวาทย์วิหาร  จิตกรรมฝาผนังวัดบุญวาทย์วิหาร ซึ่งรวบรวมโดยพระครูสังวรสุตกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร พระอารามหลวง และอาจารย์ประจำวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง

เล่าขานตำนานบุญวาทย์

เล่าขานตำนานบุญวาทย์

http://www.mculampang.com

แล้วนำมาทำ e-book มีขั้นตอนดังนี้
1. นำหนังสือมาตัดขอบให้เป็นแผ่น
ทำให้สะดวกในการเข้าเครื่อง scan แบบ auto feed
2. นำเข้าเครื่อง scan
ทำให้ได้แฟ้มภาพ .jpg มาจำนวน 50 กว่าภาพ
3. นำมาตั้งชื่อใหม่ อาทิ b01.jpg
ทำให้แต่ละหน้ามีชื่อเรียกที่สื่อความหมาย ไปถึงเลขหน้า
แล้วขนาดภาพหลัง scan กว้างมากกว่า 2000 px
4. ใช้ crop ใน Microsoft picture manager ของ Office 2010
ตัดขอบออก ให้เหลือเท่าที่จำเป็น เพราะแต่ละภาพที่ได้มา มีขนาดไม่เท่ากัน
5. คัดลอกไป folder ใหม่
แล้วใช้ irfanview ลดขนาดภาพ ให้กว้าง 512 px และเพิ่ม sharpen
เพื่อนำไปใช้ใน flip album
6. นำภาพที่ได้ในข้อ 3 ส่งเข้า photo printing wizard
แล้วส่ง print ไปที่ PDFCreator เพื่อสร้างแฟ้ม pdf
เสร็จแล้วได้แฟ้ม pdf ขนาด 50 MB ซึ่งเก็บรายละเอียดได้ชัดเหมือนเอกสาร
7. นำภาพที่ได้ในข้อ 3 ส่งเข้า facebook page เพื่อเผยแพร่ให้แก่สมาชิก
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.342993125811673.1073741825.115935711850750
8. ส่งภาพทั้งหมดในข้อ 5 ไปที่ Web Server
ซึ่งเตรียม script ของ flip album ไว้รอท่า ทำให้มี e-book แบบ online
http://www.thaiall.com/e-book/bunyawat
9. นำแฟ้มในข้อ 6 ส่งไปที่ scribd.com
เพื่อฝากแฟ้มขนาดใหญ่ไว้ใน social media website สำหรับบริการลักษณะนี้
http://www.scribd.com/doc/127776462/
10. แชร์ (Share) ไปยัง page หรือ blog หรือ profile ต่าง ๆ
เพื่อเป็นการเผยแพร่ e-book ในรูปแบบที่เหมาะสม เพราะมี 3 รูปแบบที่พร้อมเผยแพร่แล้ว
อาทิ blog ของ http://www.lampang.net

ทุกคนในองค์กรมุ่งร้ายกับองค์กร .. งานเข้าล่ะสิ

ทุกคนในองค์กรมุ่งร้ายกับองค์กร .. งานเข้าล่ะสิ

ทุกคนในองค์กรมุ่งร้ายกับองค์กร .. งานเข้าล่ะสิ

ตอนสามในบทความเรื่อง “พลาดอย่างมีเครดิต”

การทำงานโดยทั่วไปแล้วต้องเกี่ยวพันกับคนอื่น
ให้เริ่มต้นด้วยการคิดว่าคนอื่นไม่ได้หวังร้ายกับตัวเราหรืองานของเรา
คนอื่นก็เป็นส่วนหนึ่งของงานของหน่วยงาน
ถ้ามองกันในแง่ดีไว้ก่อน ต่างคนต่างมีเครดิตในสายตาของอีกคนหนึ่ง
ทำงานด้วยกันก็ไม่ยาก งานไหนเกินกำลังจริง ๆ ต้องขอแรงกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน

แต่ถ้าเริ่มต้นด้วยการมองทุกคนในห่วงโซ่ของงานนั้นเป็นคนที่หวังร้ายกับเราไปหมด
คราวนี้เขาเชื่อที่เราบอก เราก็ไม่เชื่อว่าเขาเชื่อจริง จนคิดไปไกลว่าเขาวางกับดักอะไรอยู่
ถ้าท่านใดทำงานที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ของงานใหญ่อีกงานหนึ่ง
แล้วคิดว่ารอบวงมีแต่คนที่เกลียดเรา มีแต่คนที่ไร้ฝีมือ มีแต่คนที่ไม่น่าเชื่อถือ
ขอให้เปลี่ยนไปหางานอื่นทำโดยเร็ว เพราะยิ่งทำจะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งเขาทั้งเรา

แต่ถ้าเปลี่ยนงานไม่ได้ก็ต้องเริ่มมองใหม่ทีละคนสองคน
มองหาความน่าเชื่อถือของคนที่เราต้องทำงานด้วยให้เจอให้ได้สักเรื่องสองเรื่อง
ลองเปลี่ยนความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับคนนั้นดูสักหน่อย
คนที่เราไม่เคยเชื่อนั้นอาจไม่ได้ไม่น่าเชื่อถืออย่างที่เราเคยคิดก็ได้

(3/3)
จากเรื่อง “พลาดอย่างมีเครดิต” โดย ดร.บวร ปภัสราทร
http://bit.ly/WtjtXG